การขายสินค้าผ่านระบบออนไลน์จำเป็นต้องใช้การโพสต์ข้อความหรือรูปภาพที่สามารถโน้มน้าวใจลูกค้าได้อย่างตรงประเด็น ยิ่งเป็นการโพสต์ด้วยเนื้อหาที่ตรงกับความสนใจของลูกค้าก็ยิ่งเป็นสิ่งที่ส่งผลที่ดีต่อการดำเนินธุรกิจ แต่การเลือกเนื้อหาที่จะนำมาโพสต์ได้อย่างตรงประเด็นนั้น ต้องอาศัยวิธีการดังต่อไปนี้

1. ศึกษากลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน การศึกษากลุ่มเป้าหมายต้องรวบรวมข้อมูลทั้งเพศ อายุและการประกอบอาชีพของพวกเขาเหล่านั้น เพราะข้อมูลต่าง ๆ เหล่านี้จะช่วยให้เจ้าของธุรกิจทราบว่าลูกค้าเป้าหมายมีความสนใจในเนื้อหาโพสต์แบบใด เพื่อนำมาปรับใช้ให้เกิดผลดีต่อธุรกิจของคุณ
2. โพสต์เนื้อหาอย่างต่อเนื่อง โพสต์ที่ดีไม่สามารถสำเร็จได้ในคราวเดียว แต่ยังต้องอาศัยการทำอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง จนบางครั้งลูกค้าอาจรอคอยให้ถึงเวลาที่จะได้เห็นเนื้อหาที่โพสต์ครั้งต่อไปอย่างใจจดใจจ่อเลยทีเดียว
3. โพสต์เนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มลูกค้า ลูกค้าแต่ละเพศ แต่ละช่วงวัย และแต่ละพื้นฐานอาชีพย่อมมีความสนใจในเรื่องราวใด ๆ ที่คล้ายคลึงกัน ควรเลือกโพสต์เนื้อหาที่สอดคล้องกับความสนใจ อาจสร้างเรื่องราวของสินค้าที่สอดคล้องกับความสนใจของกลุ่มลูกค้า เพื่อสร้างโอกาสโน้มน้าวใจให้เลือกซื้อสินค้าได้ดียิ่งขึ้น

การโพสต์คือรูปแบบหนึ่งที่นักธุรกิจยุคใหม่ใช้ในการสื่อสารและสร้างความสนใจให้กับกลุ่มลูกค้า แต่โพสต์ที่ดีต้องตรงประเด็น ชัดเจน ทำความเข้าใจง่ายด้วยข้อความที่ไม่ยาวหรือเยินเย้อเกินไป เป็นสิ่งที่ผู้โพสต์ควรติดตามเพื่อนำมาปรับปรุงและสร้างโพสต์ใหม่ ๆ ที่ตรงประเด็นมากกว่าเดิม ยิ่งทำต่อเนื่องก็ยิ่งสร้างโอกาสที่ดีได้มากยิ่งขึ้น

การสร้างธุรกิจให้ประสบความสำเร็จนั้น สิ่งหนึ่งที่จำเป็นและสำคัญมากนั้นก็คือการสร้างเครือข่ายระหว่างผู้ร่วมธุรกิจกัน ยิ่งกลุ่มธุรกิจขายตรงผ่านสื่อออนไลน์ก็ยิ่งมีความจำเป็นที่จะต้องสร้างตัวแทนจำหน่ายเป็นจำนวนหลาย ๆ คนเพื่อการเติบโตทางธุรกิจ แต่การจะโพสเพื่อโน้มน้าวใจให้ผู้คนเข้ามาเป็นตัวแทนจำหน่ายนั้นต้องอาศัยวิธีการ  ดังต่อไปนี้

1. ระยะเวลาในการโพส ควรเลือกระยะเวลาที่ผู้คนเข้ามาเล่นโซเซียลกันมากที่สุด สามารถค้นหาได้จากสถิติที่มีการจัดทำเอาไว้ หรือทดลองโดยการโพสเรื่องราวต่าง ๆ ด้วยตนเองแล้วสังเกตจากยอด Like หรือ Comment ที่ตอบเข้ามา เพื่อเลือกระยะเวลาในการโพสที่เหมาะสม และมีประสิทธิภาพในการโน้มน้าวใจมากที่สุด
2. ระบุรายละเอียดของสินค้าและรูปแบบการดำเนินธุรกิจให้ชัดเจน ตัวแทนจำหน่ายก็ถือเป็นสมาชิกในองค์กรธุรกิจของคุณ พวกเขาจึงมีสิทธิ์ที่จะรับทราบรายละเอียดต่าง ๆ ขององค์กรอย่างชัดเจน เป็นวิธีที่สร้างความไว้วางใจ และความสนใจให้มีผู้เข้ามาสมัครเป็นตัวแทน
3. ภายในโพสระบุรูปแบบในการติดต่อให้ชัดเจน การติดต่อที่ดีควรสามารถทำได้ต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง แม้ว่าจะยังไม่ว่างมาตอบทันที ก็ควรมีช่องทางให้ตัวแทนจำหน่ายทิ้งข้อความเอาไว้ได้ตลอดเวลา ถือเป็นการสร้างความอุ่นใจว่าตัวแทนจำหน่ายจะได้รับการดูแลจากเจ้าของธุรกิจตลอดเวลา

การโปรโมทโพสเพื่อหาตัวแทนจำหน่ายที่ดีที่จะช่วยให้ธุรกิจมีอัตราการเติบโตของยอดขายและสมาชิกผู้สนใจได้ดียิ่งขึ้น สร้างความเข้มแข็งให้กับธุรกิจของผู้โพส และยังสร้างโอกาสให้ผู้อื่นมีโอกาสประสบความสำเร็จในธุรกิจของคุณตามไปด้วย

การขายสินค้าให้ได้ยอดขายที่ดี จำเป็นจะต้องมีการแสดงรูปสินค้าที่ชัดเจนสะดุดตา ยิ่งรูปภาพสินค้าสวยเท่าใดยิ่งสามารถโน้มน้าวใจให้ลูกค้าซื้อหาสินค้าของเราได้  นับว่าเป็นการโพสรูปสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่การจะโพสรูปให้ดึงดูดใจลูกค้านั้นจะอาศัยเพียงภาพสินค้าที่ชัดเจนเพียงอย่างเดียวไม่ได้  ยังต้องมีเทคนิคในการโพสรูปดังต่อไปนี้

1. เวลาที่โพสรูปสินค้า การเลือกเวลาโพสสินค้าอย่างเหมาะสมจะทำให้กลุ่มลูกค้าสนใจในสินค้าได้ทันที ถือเป็นการกระจายข่าวและประชาสัมพันธ์ที่ดี เพราะหากเป็นช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสมรูปที่โพสก็จะไม่ได้รับความสนใจและอาจถูกเลื่อนไปเป็นลำดับท้าย ๆ ยากที่ลูกค้าจะเห็นรูปสินค้าได้
2. การจัดลำดับของภาพ การจัดลำดับของภาพควรเรียงตามลำดับความสำคัญของภาพให้ดี ภาพที่สำคัญที่สุดควรมีขนาดใหญ่กว่าภาพอื่น ๆ และมีการจัดลำดับให้มองเห็นได้ง่ายในการโพสแต่ละครั้ง เพื่อสร้างความโน้มน้าวใจให้อยากซื้อสินค้า
3. ขนาดของรูปต้องไม่เล็กเกินไป ไฟล์รูปภาพที่ดีควรมีขนาดไม่น้อยกว่า 800 x 800 pixel ถือเป็นขนาดที่สามารถแสดงรายละเอียดของสินค้าได้ชัดเจน แต่ไม่ใหญ่เกินไปจนกินพื้นที่ภายในโพสมากเกินไป หากเป็นรูปสำคัญอาจเพิ่มขนาดเป็น 1200 x 800 pixel เพื่อให้ดูน่าสนใจและเห็นได้ชัดเจนมากกว่ารูปอื่น ๆ

เทคนิคการโพสรูปที่ดีจะทำให้มีโอกาสเพิ่มยอดขายได้ดี เพราะรูปสินค้าและบริการคือปัจจัยสำคัญที่ทำให้การขายสินค้าผ่านสื่อสังคมออนไลน์มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โน้มน้าวใจให้ลูกค้าเลือกซื้อและจดจำสินค้าและบริการของผู้โพสได้ดี

การโพสต์สินค้าให้ลูกค้าสนใจนั้นจำเป็นต้องอาศัยเทคนิคและวิธีการมากมาย ทั้งข้อความ รูปภาพประกอบหรือคลิปวีดีโอที่สามารถโน้มน้าวใจให้ลูกค้าจดจำสินค้า  นอกจากนี้แล้วระยะเวลาในการโพสต์สินค้ายังนับว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมาก ยิ่งช่วงเวลาที่โพสต์เป็นช่วงที่ลูกค้าสามารถเห็นโพสต์ได้ทันทีก็ยิ่งเพิ่มโอกาสในการแข่งขันให้สูงมากขึ้นได้ดี โดยเทคนิคการหาเวลาที่ดีสุดในการโพสต์สินค้าหรือบริการนั้นมีดังต่อไปนี้

1. พิจารณาจากลักษณะอาชีพของลูกค้า สินค้าและบริการแต่ละประเภทนั้นก็จะมีความเหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างกันไป หากลูกค้าเป็นกลุ่มคนทำงาน ก็อย่าใช้แค่เวลาเลิกงานมาพิจารณา แต่ควรเลือกเวลาที่กลุ่มคนทำงานส่วนใหญ่เดินทางกลับเข้าที่พักแล้ว แต่หากเป็นนักเรียนนักศึกษาก็ควรจะโพสต์เร็วกว่าเพราะช่วงค่ำมักเป็นช่วงทำการบ้านและทบทวนบทเรียน
2. ศึกษาจากสถิติที่ทางสื่อโซเซียลทำเอาไว้ เป็นวิธีที่ค่อนข้างรวดเร็วสำหรับพ่อค้าแม่ค้ามือใหม่สามารถนำมาใช้เพิ่มโอกาสในการโน้มน้าวใจกับลูกค้า ซึ่งได้มีข้อมูลจาก Infographic ของเว็บไซด์ Quicksprout ระบุสถิติปี 2015 เอาไว้ว่าวันพฤหัสบดีและวันศุกร์เป็นวันที่ผู้คนเข้า Facebook มากที่สุด โดยช่วงเวลา13:00 – 15:00 น. คือช่วงเวลาที่รับชมมากที่สุด
3. ติดตามผลด้วยตนเอง แม้ว่าจะเตรียมข้อมูลของลูกค้าเอาไว้ดีแล้ว แต่การบันทึกสถิติและติดตามผลด้วยตนเองย่อมตรงตามความเป็นจริงมากที่สุด โดยอาจพิจารณาจากความเร็วของการแสดงความคิดเห็นในการโพสต์ตามช่วงเวลาในแต่ละครั้ง เพื่อการปรับเปลี่ยนเวลาการโพสต์ที่ดีที่สุดที่ลูกค้าจะเห็นได้ทันที

วิธีการต่าง ๆ เหล่านี้คือวิธีค้นหาเวลาโพสต์เพื่อสร้างโอกาสให้ลูกค้าเห็นมากที่สุด เพิ่มความสามารถให้พ่อค้าแม่ค้าสามารถสร้างแรงโน้มน้าวใจหรือกระตุ้นความต้องการซื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การโน้มน้าวใจของลูกค้าให้เชื่อถือเพื่อให้ลูกค้าสนใจซื้อหาสินค้าและบริการนั้นมีความสำคัญมากในการดำเนินธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ ยิ่งในปัจจุบันที่สื่อสังคมออนไลน์เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำกันก็ยิ่งทำให้มีช่องทางและเทคนิคมากมายในการดึงดูดและโน้มน้าวความสนใจของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งหนึ่งในเทคนิคที่ได้รับความนิยมมากนั้นก็คือการติดแท็ก โดยการติดแท็กนั้นสามารถช่วยสร้างโอกาสทางการตลาด ดังต่อไปนี้

1. ใช้งานได้หลายสื่อสังคมออนไลน์ การติดแท็กสามารถใช้กับสื่อสังคมออนไลน์ได้หลากหลายอย่าง Facebook , Twitter , Tumblr , Pinterest และ Instagram การติดแท็กช่วยให้ธุรกิจเกิดการเผยแพร่ในหลากหลายสื่อสังคมโซเซียลได้ไม่ยาก ยิ่งเป็นคำที่กลุ่มลูกค้าใช้ค้นหาก็จะทำให้ถูกนำมาแสดงบน Search Engine ได้ไม่ยาก
2. สั้นกระชับแต่สื่อสารได้ตรงจุด การติดแท็กควรใช้คำที่มีลักษณะเป็น Keyword สั้น ๆ แต่สามารถสื่อถึงสินค้า โปรโมชั่นหรือกิจกรรมที่จัดเพื่อการตลาดอยู่ในขณะนั้นได้ดี
3. ง่ายกับการสร้างแรงโน้มน้าวใจ โลกสังคมออนไลน์ทำให้เกิดกระแสสังคมมาเป็นระยะ ๆ การติดแท็กที่เข้ากับกระแสสังคมก็จะยิ่งเป็นการกระจายข้อมูลของธุรกิจให้แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว

อาจกล่าวได้ว่าการติดแท็กเป็นหนทางหนึ่งที่ช่วยกระจายข้อมูลของสินค้า ธุรกิจและกิจกรรมทางการตลาดที่จัดทำขึ้นได้ดี แต่ก็ต้องเลือกข้อความที่เหมาะสมเพื่อสร้างความจดจำให้กับผู้รับ เพื่อให้เกิดการค้นหาและกระจายออกไปเพิ่มเติม เห็นได้จากแบรนด์ดังระดับโลกอย่าง Pepsi , Levi’s หรือ GE ยังใช้แท็กในการตลาดเพื่อเพิ่มโอกาสในการโน้มน้าวใจลูกค้าเพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน

คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเฟซบุ๊กเป็นช่องทางสำคัญสำหรับการทำธุรกิจออนไลน์ เป็นหนึ่งในสื่อโฆษณาที่จะช่วยโน้มน้าวใจลูกค้าให้มาซื้อสินค้าและติดตามข่าวสารเกี่ยวกับธุรกิจที่คุณกำลังทำอยู่ได้ง่ายขึ้น โดยรูปแบบการโฆษณาจะมีด้วยกันหลายแบบไม่ว่าจะเป็น VDO , ข้อความ , รูปภาพที่โพสแล้วให้คนกดไลค์ เมื่อมีคนสนใจมาก ๆ ก็จะเข้ามาเลือกดูสินค้าและบริการที่ร้านของคุณ นอกจากนี้ยังมีการโปรโมทอีกรูปแบบที่กระตุ้นยอดขายได้อย่างรวดเร็วและสร้างแบรนด์ของคุณให้เป็นที่รู้จักได้ง่าย นั่นคือการทำเฟซบุ๊กไลฟ์

การทำเฟซบุ๊กไลฟ์ช่องทางนี้เรียกว่าเป็นที่นิยมกันมากสำหรับธุรกิจออนไลน์ เป็นฟังก์ชั่นหนึ่งของเฟซบุ๊กแบบถ่ายทอดสดได้เลย เมื่อมีการถ่ายทอด ผู้ชมกับผู้ไลฟ์ก็จะมีโอกาสใกล้ชิดกันมากขึ้น โดยสามารถตอบโต้ผ่านข้อความได้ทันที  นี่จึงถือเป็นช่องทางที่ดีที่สุดสำหรับการสร้างแบรนด์และสร้างภาพของความเป็นมืออาชีพให้กับเจ้าของแฟนเพจ เพราะคำถามของลูกค้าแต่ละคนจะต่างกัน การตอบคำถามที่ตรงประเด็น กระชับ แสดงให้เห็นถึงความเข้าใจในสินค้าและบริการของตนเป็นอย่างดี  สร้างความเชื่อถือให้กับลูกค้าอย่างได้ผล การไลฟ์สดจึงเป็นอีกทางหนึ่งที่สร้างแรงโน้มน้าวใจให้ลูกค้าสนใจในสินค้า

สำหรับการทำไลฟ์เฟสบุ๊ก สิ่งหนึ่งที่เจ้าของเพจต้องทำให้ได้คือการสร้างจุดขายของตัวเอง เช่น ลีลาการพูด , ความเป็นมิตร , อารมณ์สนุกสนาน , ความตลกขบขัน รวมถึงโปรโมชั่นของสินค้าหรือเทคนิคต่าง ๆ ที่คุณมี สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้สามารถดึงเหล่าแฟนเพจให้เข้ามาสนใจและอยากมาใช้บริการธุรกิจของคุณ ช่องทางนี้ถือว่าเป็นการสร้างแบรนด์ที่ลงทุนน้อย ใช้เวลาไม่นานแต่สามารถสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักได้อย่างรวดเร็ว

เคยสังเกตกันไหมว่าคอนเทนท์ที่เป็นคลิปสั้น ๆ เป็นที่นิยมและถูกเปิดเข้ามาชมมากกว่าคลิปที่มีความยาวหลายนาที ที่เป็นเช่นนี้เนื่องจากสมัยนี้เราต่างมีมือถือแบบสมาร์ทโฟนที่สามารถเปิดดูคลิป เมื่อเล่นสื่อโซเชียล เมื่อเลื่อนผ่านคลิปที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย เช่น สั้น เนื้อหากระชับ เข้าใจง่าย ไฟล์ขนาดไม่ใหญ่มาก โหลดเร็ว ผู้บริโภคก็จะเปิดเข้าไปดู โดยคลิปที่โพสขึ้นมานั้นจะต้องเป็นคลิปที่โน้มน้าวใจและดึงดูดใจคนดูด้วย หากเป็นที่สนใจมาก โอกาสที่จะถูกกดไลค์และกดแชร์ก็จะมากขึ้นด้วยเช่นกัน

ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีหากเจ้าของเพจรู้ช่องทางสำหรับโปรโมทเพจของตัวเองผ่านคลิปสั้น ๆ นี้ ด้วยรูปแบบการนำเสนอที่มีความแปลกใหม่และน่าสนใจ จะเป็นอีกหนึ่งช่องทางของการขยายโอกาสการทำธุรกิจออนไลน์ ซึ่งหากสังเกตดีๆ คลิปสั้นๆ ที่เราเห็นมักจะมีเวลาไม่เกิน 60 วินาทีเท่านั้น เพราะหากมากกว่านี้อาจจะถูกเลื่อนผ่าน โดยเนื้อหาที่ใส่เข้าไปจะต้องสื่อให้ชัดเจนไปเลยว่าต้องการสื่ออะไรกับผู้ชม ระหว่างนั้นสามารถสอดแทรกแบรนด์สินค้าของตัวเองเข้าไปเพื่อให้เป็นที่รู้จัก  ที่สำคัญไฟล์วีดีโอจะต้องเป็นไฟล์ขนาดเล็กและง่ายต่อการเปิดชม เพราะจากพฤติกรรมของคนยุคใหม่ที่ชอบความรวดเร็ว หากไฟล์วีดีโอความยาวไม่มาก แต่ใช้เวลาเปิดนาน ผู้ชมอาจจะหมดความสนใจไปเลยดื้อ ๆ

ด้วยเหตุนี้ทำให้คลิปวีดีโอสั้น ๆ บนหน้าเพจเฟสบุ๊กหรือพวกสื่อโซเชียลต่าง ๆ เป็นที่น่าสนใจมากขึ้นทุกวัน ที่สำคัญในโลกโซเชียล พวกข้อความยาวอาจจะไม่เป็นจุดดึงดูดใจให้กับผู้ชมเท่าใดนัก เมื่อมาเปรียบเทียบกับรูปภาพและสื่อวีดีโอ หากคุณเป็นคนที่มีไอเดียและอยากกระตุ้นยอดขายให้กับธุรกิจออนไลน์ของตัวเอง การสร้างคลิปสั้น ๆ จะเป็นอีกหนึ่งเทคนิคโน้มน้าวใจลูกค้าอีกหนึ่งวิธี

ยุคนี้พฤติกรรมของคนเราเปลี่ยนไปมาก สื่อโซเชียลเปรียบเสมือนส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็น twitter , Facebook , instagram ที่เข้าถึงผู้เสพได้อย่างง่ายดาย ทำให้เป็นหนึ่งช่องทางง่าย ๆ สำหรับธุรกิจออนไลน์ที่จะเข้าถึงกลุ่มคนยุคใหม่ ด้วยการทำโฆษณาผ่านสื่อเหล่านี้ หนึ่งในนั้นคือการทำคลิปวีดีโอที่ได้รับความนิยมมากในขณะนี้ เนื่องจากเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด สามารถโน้มน้าวใจ ผู้ชมให้กดไลค์ กดแชร์ แล้วเข้ามารับบริการของทางเพจได้ง่ายขึ้น

ด้วยเหตุนี้ทำให้สื่อออนไลน์เป็นสื่อที่มีความสำคัญมากสำหรับการขยายโอกาสทางธุรกิจ  วีดีโอที่ทำขึ้นมานั้นส่วนใหญ่จะต้องเป็นวีดีโอที่มีความสั้น กระชับ  เข้าใจง่าย เพื่อว่าเมื่อผู้ชมเปิดเข้ามาเห็นจะไม่เลื่อนผ่านไปเฉย ๆ ทั้งนี้การใช้เน็ตไอดอล , ดาราหรือการนำเสนอด้วยรูปแบบแปลกตา ยิ่งเป็นจุดขายและเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ เนื่องจากผู้ชมสมัยนี้ เปิดโซเซียลขึ้นมาเล่นไม่เฉพาะเพื่ออัพเดทเรื่องราวต่าง ๆ แต่เปิดขึ้นมาเพื่อมองหาความบันเทิง หากคลิปที่เจ้าของเพจทำขึ้นมาดูน่าสนใจ ก็จะช่วยกระตุ้นยอดขายและเปิดโอกาสให้คนอื่น ๆ ได้เข้ามาทำความรู้จักกับเพจของตัวเองได้ง่ายขึ้นเช่นกัน

นอกจากนี้หากวีดีโอโฆษณาเป็นที่รู้จัก คนเข้ามาชมและคอมเมนท์เป็นจำนวนมาก  สิ่งหนึ่งที่เรียกว่ามีอิทธิพลต่อกลุ่มลูกค้าออนไลน์ คือ ผลตอบลัพธ์จากคอมเม้น เช่น หากคุณขายลิปสติกและมีการนำเสนอที่น่าสนใจ ก็จะมีคนเข้ามาคอมเม้นท์ถามถึงราคา สี  หากที่คนที่เคยใช้ไปแล้วรู้สึกชอบ ประทับใจ เขาก็จะเข้ามาแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับประสบการณ์ที่เคยใช้ว่าใช้แล้วดีอย่างไร เมื่อคนที่ไม่เคยใช้ได้อ่านคอมเม้นท์ที่ทรงประสิทธิภาพเหล่านี้ ก็จะแห่มาซื้อสินค้าตัวนั้นเช่นกัน ต้องถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ในการโน้มน้าวใจผู้ซื้อหน้าใหม่ คอมเม้นท์เหล่านี้จึงเป็นอีกแหล่งข้อมูลสำคัญที่เปิดโอกาสให้สินค้าเป็นที่รู้จัก สร้างความน่าเชื่อถือและทำให้ยอดขายดีในอนาคต

การสร้างเว็บไซต์ให้เป็นที่รู้จัก ถือเป็นช่องทางสำคัญสำหรับการทำธุรกิจออนไลน์ เมื่อสร้างเว็บไซต์แล้วก็ต้องมีการโปรโมทเพื่อให้ผู้คนได้รู้จัก แต่ช่องทางการโปรโมทที่คนส่วนใหญ่ทำกันอาจจะทำกันแบบไม่ถูกต้องหรือไม่มีประสิทธิภาพเท่าใดนัก  เช่น เป็นโฆษณาที่ไม่น่าสนใจและไม่โน้มน้าวใจ ไม่ดึงดูดใจลูกค้าเท่าไหร่นัก … หากคุณกำลังประสบปัญหาการโปรโมทที่ไม่ได้ผล  แนะนำให้เลือกใช้เทคนิคดังต่อไปนี้ซึ่งเป็นเทคนิคที่ง่ายแต่สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

1. เลือกใช้บทความ SEO เป็นช่องทางหนึ่งที่เรียกว่าได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับการดันเว็บไซต์ของตัวเองให้เป็นที่รู้จัก บทความ SEO จะมีจุดเด่นที่ Keyword ที่เลือกใช้ เมื่อมีการเสิร์ชคำค้น Keyword นั้นๆ ในหน้า Google เว็บไซต์ของคุณก็จะแสดงขึ้นทันที ช่วยให้เว็บของคุณง่ายต่อการค้นหาและเข้าถึงได้รวดเร็ว
2. สร้างลิงค์เชื่อมต่อภายใน เพื่อความสะดวกและง่ายในการเข้าถึงเพจหรือเว็บไซต์ของคุณ ในทุก ๆ บทความ หากสามารถสอดแทรกลิงค์ที่เชื่อมโยงให้เข้าสู่หน้าเพจหรือเว็บได้ ก็จะง่ายต่อการเชื่อมต่อ
3. โปรโมทผ่านการสื่อโฆษณา เป็นวิธีการที่เว็บไซต์หลาย ๆ เว็บเลือกใช้บริการ ส่วนใหญ่จะนิยมซื้อโฆษณาผ่านหน้า Google เมื่อมีการเสิร์ชคำที่เกี่ยวข้อง เว็บของคุณจะถูกแสดงในหน้าแรกและเป็นหัวข้อต้น ๆ เมื่อกลุ่มผู้สนใจเห็นก็จะเลือกและเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณ

การโปรโมทเว็บไซต์ด้วย 3 เทคนิคที่กล่าวมาเป็นเทคนิคง่าย ๆ ที่ใช้ในการโน้มน้าวใจลูกค้าให้เปิดเข้ามาเยี่ยมชมในหน้าเพจของคุณ ซึ่งนอกจากการโฆษณาที่น่าสนใจแล้ว สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันเลยคือตัวเว็บไซต์ที่ต้องมีความน่าสนใจ เมื่อลูกค้าเปิดเข้ามาแล้วจะคลิกดูรายละเอียดและโน้มน้าวใจให้สนใจในธุรกิจที่คุณทำ เปิดโอกาสให้ทำธุรกิจง่ายขึ้น

อีกช่องทางที่เรียกว่าเป็นวิธีการโน้มน้าวใจลูกค้าได้อย่างไม่น่าเชื่อ คือการสนทนาแบบเรียลไทม์ หากลองสังเกตตามหน้าเว็บไซต์ออนไลน์หรือแฟนเพจที่มีช่องให้เราใส่ข้อความเพื่อสนทนากับเจ้าของเพจ  เพจไหนที่ตอบเร็ว เพจนั้น ๆ ก็จะมีลูกค้าเป็นจำนวนมาก การสนทนาแบบเรียลไทม์จะแบ่งออกเป็นไลฟ์แชทที่เราคุ้นเคยกันดีกับการโต้ตอบผ่านกล่องข้อความ  อีกแบบคือการไลฟ์วีดีโอ ซึ่งลักษณะการไลฟ์นั้นจะต่างกันตรงที่การไลฟ์อาจจะทำเป็นช่วงเวลา ทั้งสองแบบถือเป็นหนึ่งช่องทางให้ทางเจ้าของเว็บไซต์เข้าถึงกลุ่มลูกค้าออนไลน์ได้อย่างง่ายดายและใกล้ชิดกันมากขึ้น

รูปแบบการสนทนาแบบเรียลไทม์เริ่มเป็นที่นิยมมากในสังคมโซเชียลและวงการธุรกิจออนไลน์ เนื่องจากการสนทนาในรูปแบบนี้เป็นวิธีการง่าย ๆ ในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่สนใจสินค้าโดยตรง  เช่น หากลูกค้ามีข้อสงสัยเกี่ยวกับสินค้า ก็สามารถพิมพ์ข้อความไปสอบถามทางเพจได้ทันที ทางเพจรู้และทราบถึงความต้องการของลูกค้าได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้ธุรกิจทราบถึงข้อบกพร่องที่ลูกค้าร้องเรียนและสามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปปรับปรุงและพัฒนาธุรกิจต่อไป ที่สำคัญที่สุดช่องทางนี้เป็นช่องทางที่ง่ายที่สุดสำหรับการอัพเดทสินค้าใหม่ ๆ เปิดโอกาสให้กระจายสินค้าได้อย่างรวดเร็ว

การสนทนาแบบเรียลไทม์ เป็นหนึ่งเคล็ดลับง่าย ๆ ที่ทุกเพจทำได้ เป็นหนึ่งเทคนิคในการโน้มน้าวใจและเข้าถึงลูกค้า ช่วยให้รู้ว่าลูกค้าชอบหรือไม่ชอบอะไร เพื่อจะได้ปรับปรุงและสร้างความน่าสนใจให้มากขึ้น ซึ่งการทำเพจในลักษณะนี้สิ่งสำคัญคือความไวในการตอบคำถาม เนื่องด้วยสไตล์ของคนยุคใหม่ที่ชอบความเร็ว ไม่ชอบการอคอย ดังนั้นหากเพจของคุณสามารถทำได้ ถือว่านี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่จะทำให้คุณเข้าถึงลูกค้าได้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น