ทักษะจำเป็นสำหรับการโปรโมทสินค้าให้ประสบความสำเร็จ

อย่าลืมว่าเมื่อคุณเริ่มเปิดร้านค้าออนไลน์ในช่วงแรกๆ อาจจะไม่มีลูกค้าตามที่คาดหวังไว้  การเปิดร้านค้าขายของไม่ว่าจะเป็นร้านค้าออนไลน์ หรือแบบมีหน้าร้าน หากเจ้าของธุรกิจไม่มีความอดทนอาจถึงขั้นอยากลดราคาแล้วขายทุกอย่างทิ้งไปลองเปลี่ยนความคิดและหันมามั่นใจและหมั่นตรวจสอบแผนการตลาดเพื่อโปรโมทสินค้า บวกกับการปรับเปลี่ยน ทำอะไรใหม่ๆ เพื่อเรียกลูกค้าและโปรโมทสินค้ากันดีกว่า  ที่สำคัญอย่าท้อแท้และอย่าลืมว่าความอยากได้ของลูกค้าก็มีระยะเวลาจำกัด  หากคุณไม่สามารถโต้ตอบลูกค้าได้ทันที อาจทำให้เสียลูกค้าไปได้ แม้แต่บริการหลังการขายของก็เป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกัน การขายของจะต้องมีทักษะซึ่งจะทำให้ร้านค้าของคุณประสบความสำเร็จได้กว่าที่เป็นอยู่ แน่นอน ??

ทักษะสำคัญของการขายเพื่อโปรโมทสินค้า

คนที่ทำงานด้านการขายของ หากต้องการทำให้ร้านค้ามีประสิทธิภาพ จะต้องรู้จักปรับปรุง และพัฒนาศักยภาพการขายเสมอ ไม่เพียงจะทำให้การขายดีขึ้น หากแต่ผู้ที่ขายมีทักษะการขายที่ดีก็จะสามารถเข้าใจความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดีด้วย  การเพิ่มยอดขายที่ตั้งไว้ในแต่ละเดือนสามารถทำได้ด้วยการโปรโมทสินค้า โดยจะต้องดูจากลักษณะของสินค้าที่จะโปรโมท และดูข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับความสามารถในการชักจูงบวกกับการโน้มน้าวใจลูกค้า เพื่อที่จะทำให้ลูกค้ารู้สึกเกิดความคล้อยตาม หรืออยากซื้อสินค้าและบริการของคุณ โดยผู้ที่ขายของจำเป็นต้องใช้ศิลปะในการขาย จึงจะทำให้การโปรโมทสินค้าประสบความสำเร็จ

การขายของต้องให้ข้อมูลการโปรโมทสินค้าที่จำเป็น

ผู้ที่ขายของจะต้องให้ข้อมูลข่าวสารในการโปรโมทสินค้าที่จำเป็น สิ่งที่จำเป็นสำหรับงานขายแลการโปรโมทสินค้าคือการเรียนรู้เกี่ยวกับลูกค้า เพราะก่อนที่จะทำการขาย จะต้องรู้ก่อนว่าลูกค้าของคุณเป็นใคร และกำลังมองหาสินค้าประเภทไหน    วิธีการนี้จะช่วยให้คุณได้ลูกค้าที่ตรงกับเป้าหมาย เพื่อที่จะได้ทำการโปรโมทสินค้าได้ง่ายขึ้น แล้วจึงดำเนินการวางแผนเพื่อทำการตลาดก่อโปรโมทสินค้าต่อไป

โปรโมทสินค้าให้เกิดความประทับใจ

ก่อนจะทำการโปรโมทสินค้า ผู้ขายจะต้องมั่นใจก่อนว่าคุณมีข้อมูลเกี่ยวกับลูกค้าอย่างเพียงพอ  รวมถึงความต้องการ และพฤติกรรมการซื้อสินค้า การวางแผนกลยุทธ์ในการขาย เมื่อจะทำการเปิดการโปรโมทสินค้า จะต้องทำให้ลูกค้าเกิดความประทับใจ และต้องมีมารยาทที่ดีในการขายไปพร้อมๆ กัน ต้องไม่ทำให้ลูกค้ารู้สึกอึดอัดจากการเปิดการขายที่ดุดันมากเกินไป  และเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี  โดยลูกค้ามีทีท่าว่าจะซื้อสินค้าของคุณจากการโปรโมทสินค้าแล้ว ควรใช้โอกาสนั้นปิดการขายโดยทันที แต่ต้องไม่เร่งรัดจนเกินไป  ควรสรุปให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าของคุณโดยเสนอทางเลือกให้เร็วและง่ายขึ้น

อาจมีการให้ข้อเสนอพิเศษหรือโปรโมชั่นต่างๆ  ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของการโปรโมทสินค้า ไม่ว่าจะเป็นการลดราคาพิเศษ การแจกของแถม ฯลฯ เพียงเท่านี้ ลูกค้าก็จะเกิดความพอใจในการโปรโมทสินค้าเพื่องานขายของคุณแล้วล่ะ

จำเป็นแค่ไหนที่จะต้องทำโฆษณาออนไลน์บน Facebook   ?

เพราะเฟซบุ๊คเป็นสุดยอดโซเชียลที่ทรงพลังที่สุดในตอนนี้ อีกทั้งสังคมก้มหน้าบ้านเราล้วนแล้วแต่เข้าสู่โลกโซเชียลแทบจะทุกวินาทีเลยก็ว่าได้  ซึ่ง Facebook  เป็นแอพที่ผู้ใช้งานบนโลกออนไลน์มากที่สุด  เพราะนอกจากจะได้เห็นโพสต์ธรรมดาทั่วๆ ไปของแต่ละบุคคลแล้ว ยังมีเพจคำคมต่างๆ ที่เกิดขึ้นมากมายเพื่อทำให้คนหันมาติดตามมากดไลค์ กดแชร์กันมากขึ้น หรือแม้แต่การเปิดร้านค้าออนไลน์ที่ต้องการให้ลูกค้าหันมาสนใจสินค้ามากขึ้น การนำผลิตภัณฑ์ต่างๆ มาขายบน เฟซบุ๊ค หรือแฟนเพจ  หากมีการทำโฆษณาออนไลน์สิ่งที่คาดหวังนอกเหนือจากการกดไลค์หรือแชร์ก็คือ การทำยอดขายให้เพิ่มขึ้นนั่นเอง

ไม่น่าเชื่อว่าบ้านเราจะมีผู้ใช้ Facebook มากมายจนติดอันดับต้นๆ ของโลก แถมยังมีร้านค้าออนไลน์มากมายนับไม่ถ้วน ทำให้เราได้เห็นสินค้าหลากหลายแบรนด์และแบรนด์เดียวกันเต็มไปหมด ซึ่งต่างที่จะมุ่งหวังว่าจะสามารถสร้างรายได้จากการขายของออนไลน์ให้ได้ให้รวย แต่หากจะปล่อยไว้เฉยๆ โดยไม่ทำอะไรก็อาจจะเป็นเรื่องที่เสียเวลาในการรอลูกค้าเข้ามาดูในเพจนานเกินไป เหตุนี้ จึงได้มีการทำโฆษณาออนไลน์บนเฟซบุ๊คที่ถือได้ว่าเป็นการทำการตลาดที่ประสบความ สำเร็จอย่างมาก  และยังทำให้เพจร้านค้ากลายเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น ซึ่งยังทำให้เพจมองเห็นอยู่ในอันดับต้นๆ อีกด้วย  ..ว่าแต่การทำโฆษณาออนไลน์บน Facebook คืออะไร??? มีความจำเป็นแค่ไหน แล้วจะช่วยสร้างยอดขายให้พิ่มขึ้นได้จริงหรือ??

การทำโฆษณาออนไลน์บน Facebook คืออะไร?

การทำโฆษณาออนไลน์บนเฟซบุ๊ค เป็นการทำให้เพจร้านค้าเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นบนโลกออนไลน์ ซึ่งก็เหมือนกับการทำโฆษณาทั่วๆ ไป เพียงแต่ว่าแต่สถิติประเทศไทย ณ ปัจจุบันมีผู้ใช้เฟซฯกว่า  26  ล้านคน และไม่น่าเชื่อว่าจะติดเป็นอันดับ 3  ของโลก ซึ่งเฟซบุ๊คถือเป็นสุดยอดโซเชียลที่ทรงพลังที่สุดตอนนี้ ทำให้การทำโฆษณาออนไลน์บนเฟซบุ๊คจึงมีส่วนทำให้การตลาดประสบความสำเร็จในอันดับต้นๆ อีกด้วย

รูปแบบของการทำโฆษณาออนไลน์บน Facebook

1.Page Like…. โฆษณาออนไลน์ของการถูกใจหน้าเพจ  

Page Like  จะช่วยกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้อย่างชัดเจน ซึ่งเป็นรูปแบบการโฆษณาออนไลน์ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแนะนำเพจของคุณให้เพื่อนๆ หรือผู้ที่ใช้งานบนเฟซบุ๊คได้รู้จักมากขึ้น  และยังเป็นตัวช่วยในการเพิ่มจำนวนคนไลค์เพจให้มากขึ้น อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับเพจของคุณได้อีกด้วย

2.Boost post …โฆษณาออนไลน์ เพื่อโปรโมทโพสต์

Boost post เป็นรูปแบบของการยกโพสต์ในเพจเพื่อขึ้นโฆษณาออนไลน์ ซึ่งเหมาะสำหรับเจ้าของเพจที่ต้องการแนะนำสินค้า บริการ และการจัดโปรโมชั่นต่างๆ ให้กับผู้ที่ใช้งานบนเฟซบุ๊ค ได้ทราบข่าวกันอย่างกว้างขึ้น ไม่ว่าจะเป็นคนที่เคยกดไลค์ หรือไม่เคยกดไลค์ ซึ่งการทำโฆษณาออนไลน์รูปแบบนี้ผลลัพธ์ที่ได้คือ มีจำนวนคนเห็นโพสต์ของคุณมากขึ้น และยังเพิ่มจำนวน ไลค์ คอมเม้นท์ ในโพสต์นั้นๆ ได้โดยไม่เสีย ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

3.Click To Website….โฆษณาออนไลน์ บนเว็บไซต์

Click To Website  การทำโฆษณาออนไลน์รูปแบบนี้ จะมีจำนวนและผู้คนที่เห็นโฆษณาออนไลน์ของคุณมากที่สุด เหมาะสำหรับผู้ที่มีเว็บไซต์ที่ต้องการโปรโมท สามารถนำเว็บไซต์มาทำการโฆษณาออนไลน์บน Facebook ได้เช่นกัน  โดยมีจุดประสงค์หลักคือ ทำให้คนที่ใช้งานเฟซบุ๊คเข้าสู่เว็บไซต์ของคุณเพื่อทำให้รู้จักเว็บไซต์ของคุณมากยิ่งขึ้น

ทำการโฆษณาออนไลน์ ยังไงดี??? เงินลงทุนไม่ถึง  5,000 บาท!!

เจ้าของธุรกิจที่ต้องการโปรโมทสินค้า หรือโปรโมทเพจ โปรโมทเว็บไซต์ จะต้องเข้าใจก่อนว่า การทำโฆษณาออนไลน์ มีหลายรูปแบบ  ซึ่งในการเริ่มต้นทำธุรกิจออนไลน์เล็กๆ สำหรับบางคนอาจมีเงินลงทุนไม่มากมายประมาณ  1,000 – 5,000  บาท/เดือนแต่หากต้องการนำเงินที่เหลือนี้มาใช้ทำโฆษณาออนไลน์ จะทำอย่างไรถึงจะได้ผลดีสูงสุด มาดูการทำโฆษณาออนไลน์วิธีหลักๆ ที่ได้ผลดีก่อน จะได้จัดการได้ง่าย เพราะหากทำเยอะเกินไปมันจะกินเวลาส่วนอื่นๆ ที่เหลือได้

แบ่งเวลาในการทำโฆษณาออนไลน์

การแบ่งเวลาในการทำโฆษณาออนไลน์ โดยใช้เพียง  30 % ของทั้งหมด คุณอาจทำการตลาดหรือการโฆษณาออนไลน์  ผ่านทางสื่อโซเชียล ไม่ว่าจะเป็นกูเกิล หรือเฟซบุ๊คเป็นหลัก เพราะเป็นสิ่งที่คนไทยเล่นเยอะมาก และยังเป็นโอกาสของการทำธุรกิจโดยแท้ ซึ่งเรทราคาของการทำโฆษณาออนไลน์จะมีหลากหลายให้เลือก โดยเลือกการโปรโมทจากจำนวนวัน เพื่อให้การเข้าถึงมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยคุณสามารถกำหนดวันได้ตามงบประมาณ

แบ่ง ” เงินลงทุน ” เป็น 2 ส่วนเพื่อทำการโฆษณาออนไลน์

การแบ่งเงินเพื่อทำเว็บไซต์ เพื่อรองรับการทำโฆษณาออนไลน์ ผ่านกูเกิล อวอร์ด หรือเน้น  SEO  รวมทั้งแบ่งเงินเพื่อทำ โฆษณาออนไลน์ ผ่านทางเฟซบุ๊ค แฟนเพจ เพื่อรองรับการทำโฆษณาออนไลน์ ด้วยการโปรโมทเพจ และการกระตุ้นโพสต์โดยสามารถกำหนดการจ่ายเงินเพื่อโฆษณาออนไลน์ ประมาณ  2-3,000  บาท /เดือนผ่านเฟซบุ๊ค และจ่ายเงินประมาณ 500-1,000  บาทต่อเดือน เพื่อโฆษณาออนไลน์ ผ่านกูเกิล

แบ่งเงินลงทุนเพื่อทำ Website

การทำเว็บไซต์เพื่อขายของออนไลน์ รวมทั้งการสร้างแบรนด์ เพื่อโปรโมทความสามารถของตัวเอง สามารถทำได้หลายวิธี ส่วนใหญ่มักนิยมเปิดเว็บไซต์ฟรีกับผู้ให้บริการทั่วไป  หากคุณอยากทำธุรกิจออนไลน์อย่างจริงจัง  ลองใช้เว็บไซต์ที่สร้างด้วย WordPress จะดีกว่า เพราะในอนาคตมันต่อยอดได้อีกมากมาย แถมยังช่วยเกื้อหนุนกับ SEO ได้เป็นอย่างดีและรองรับ ecommerce ในอนาคตอีกด้วย  เรียนรู้ครั้งเดียว ต่อยอดได้อีกหลายปี สำหรับการลงทุนทำเว็บไซต์ที่สร้างด้วย WordPress วิธีนี้เป็นการทำโฆษณาออนไลน์ แบบเนียนๆ ที่สำคัญอย่าลืมหมั่นอัพข้อมูลลงเว็บเรื่อยๆ

การทำโฆษณาออนไลน์ ด้วย SEO และ Google Adwords

การลงโฆษณาออนไลน์กับ Google Adwords  เป็นช่องทางรายได้ของ Google เป็นหลัก เขาจะโฆษณาบ่อยๆ เพื่อเรียกยอดขายและเผยแพร่ให้คนนิยมใช้กันง่ายมากขึ้น  นอกจากนี้การทำ Google SEO ด้วยตัวเอง จะช่วยโปรโมทสินค้าได้ในระยะยาวและยั่งยืนมากยิ่งขึ้น ส่วนคนทำโฆษณาออนไลน์ Google Adwords  ใช้ปัจจัยหลักๆที่มีผลให้โฆษณาราคาถูกลง คือ อัตราการคลิ๊ก, ความเกี่ยวข้องโฆษณา และ ประสบการณ์ Landing Page ซึ่งคนที่ทำการตลาดออนไลน์ผ่าน Google SEO มาแล้ว จะมีทักษะการเล่าเรื่องและการเขียนหรืออธิบายสินค้าได้อย่างครบถ้วน ทำให้ Landing Page ดีไปด้วย ส่งผลให้ค่าโฆษณาออนไลน์ Adwords ถูกตามไปด้วย  คนทำ SEO มาก่อนก็มีแนวโน้มที่จะเขียนคำโฆษณาออนไลน์ ใน Adwords ดี เรียกได้ว่าครบสูตรปัจจัยการทำ Adwords ให้ถูก ช่วยประหยัดเงินลงทุนนั่นเอง

การทำโฆษณาออนไลน์ ผ่าน Facebook ทำได้ง่าย ขั้นตอนไม่ซับซ้อน เพียงแค่ระบุกลุ่มเป้าหมาย ใส่เงินเข้าไป ก็จะเป็นการโปรโมทเพจให้คนกดถูกใจแฟนเพจ หรือ โปรโมทโพสต์ใดๆก็ได้ แล้วแต่ต้องการ ซึ่งคุณสามารถประหยัดเงินค่าโฆษณาออนไลน์ ด้วยการเขียนคำโฆษณาที่มีดีมีประโยชน์ หาภาพน่าสนใจและเชิญชวนให้คนเข้าชม ติดตามเนื้อหาในเว็บเพจโดยสามารถทำได้ทั้งกูเกิลและเฟซบุ๊ค ซึ่งทักษะนี้สามารถฝึกกันได้ ด้วยการเป็นนักเขียน และการเล่าเรื่องสินค้าที่ดี แม้มีเงินลงทุนน้อยไม่เกิน 5,000 บาท  ก็สามารถสร้างมูลค่าทางธุรกิจกลับมาได้มากมาย เพราะเมื่อโฆษณาออนไลน์มีคุณภาพดี ก็คือผลพวงจากการเขียนเนื้อหาดี ซึ่งจะทำให้งบการลงทุนของคุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

หลักในการสร้างทักษะความชำนาญ การทำโฆษณาออนไลน์

กว่าเว็บไซต์จะขึ้นอันดับ ใน Google ได้ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่อาศัยเพียงปัจจัยแบ็คลิงค์ ( Backlink) เป็นหลักเหมือนเมื่อก่อน ยิ่งยุคนี้กูเกิลพัฒนาการเขียนโปรแกรมให้ตรวจจับเว็บไซต์ที่มีคุณภาพได้มากขึ้น จะมาทำเว็บไซต์หลอกกูเกิลว่าเว็บไซต์ของคุณ ดีเวอร์และมีแบ็คลิงค์มากมายไม่ได้แล้ว การเพิ่มจำนวนแบ็คลิงค์อย่างเดียว  อาจกลายเป็นยาพิษย้อนกลับมาทำร้ายเว็บไซต์ตัวเองก็เป็นได้หากมีแบ็คลิงค์ที่ไม่ดี  เพราะแทนที่จะได้เว็บไซต์ไต่อันดับดีๆๆ  ซึ่งจำนวนแบ็คลิงค์ ยังมีผลกับการจัดอันดับเว็บไซต์ แต่เนื่องจากกูเกิลคิดคะแนนการจัดอันดับเว็บไซต์จากหลายๆปัจจัย

สำหรับผู้ประกอบการหรือเจ้าของธุรกิจออนไลน์ อาจจะดูยุ่งยากเกินไปที่จะจัดการกับการโฆษณาออนไลน์ที่จะต้องใช้ SEO ที่สลับซับซ้อนและมีรายละเอียดมากมายพอสมควร หากจะไปจ้างทำโฆษณาออนไลน์ เพื่อทำ SEO ก็ไม่แน่ใจว่าเชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหน ?  และคุ้มค่ากับเงินที่ลงทุนไปหรือไม่ ?? เป็นการโฆษณาออนไลน์ที่จะต้องเอาอนาคตของธุรกิจออนไลน์ไปฝากไว้กับคนอื่น และก่อนที่จะจ้างการทำโฆษณาออนไลน์ สำหรับทำ SEO  คุณควรจะมีความรู้และความชำนาญให้แน่ชัดกว่านี้

ทักษะความชำนาญของการโฆษณาออนไลน์เพื่อทำ SEO

1.ผู้ทำโฆษณาออนไลน์ต้องชำนาญด้านการสร้างเนื้อหา

การทำโฆษณาออนไลน์ ด้วยการให้นักเขียนบทความเขียนเนื้อหาหรือคอนเทนต์ดีๆ เป็นส่วนหนึ่งของการทำการตลาด ที่เน้น SEO  ซึ่งจะต้องมีความชำนาญด้านการเขียน และการสร้าง Content  ให้เสมือนเป็นกระบอกเสียง ที่จะช่วยเป่าประกาศถึงแบรนด์และสินค้าของเจ้าของธุรกิจออนไลน์ ให้ดังกระฉ่อนทั่วโลกออนไลน์ ซึ่งการเขียนเนื้อหาที่ดีจะช่วยดึงคนอ่านแวะเวียนมายังเว็บไซต์สม่ำเสมอ  เป็นการสร้างความน่าเชื่อถือของสินค้าและการจดจำเว็บไซต์ของคุณได้อย่างดีเยี่ยม

2.โฆษณาออนไลน์กับเทคนิคการทำ SEO

การทำโฆษณาออนไลน์ ด้วยการทำการตลาดให้มีการเน้น SEO  เพื่อความชำนาญเกี่ยวกับโครงสร้างเว็บไซต์ และการเขียนโปรแกรมที่ทำให้เว็บไซต์โหลดเร็วขึ้นเพื่อการรองรับมือถือ และปรับแต่งโค้ดให้ทำงานได้เสถียรและตรงตามมาตรฐาน ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นโปรแกรมเมอร์ หรือ เว็บดีไซน์เนอร์มาก่อน จึงค่อยมาเรียนรู้ SEO เพิ่มทีหลัง

3.ผู้ทำโฆษณาออนไลน์ ต้องชำนาญด้านการสร้างลิงค์ ทั้งภายในและภายนอกเว็บไซต์

การทำโฆษณาออนไลน์ จะเน้นที่การปรับโครงสร้างของลิงค์เพื่อให้สอดคล้องกับการทำงานของ SEO ได้ดี และมีการจัดการแบ็คลิงค์ จากเว็บไซต์อื่นได้ดี แต่ควรระวังเรื่องแบ็คลิงค์จากเว็บไซต์ที่ไม่มีคุณภาพ เพราะส่วนใหญ่จะใช้ลิงค์จากเว็บอื่นๆ  เพื่อมากระตุ้นยอด SEO ให้เพิ่มขึ้นโดยไม่สนใจเนื้อหา ซึ่งอาจทำให้ส่งผลเสียได้

4.การทำโฆษณาออนไลน์จะต้องชำนาญด้านสื่อ Social Media

นักการโฆษณาออนไลน์ ที่จะทำ SEO  ต้องเข้าใจการทำงานของสื่อออนไลน์ บน Social Media เป็นอย่างดี และต้องสร้างความสัมพันธ์ภายในโลกออนไลน์ให้เกิดขึ้น อีกทั้งการติดตามความเคลื่อนไหว และการอัปเดตต่างๆ ที่มีผลกับ SEO  ไม่ว่าทั้งในเฟซบุ๊ค,ยูทูปว์ และสื่อ Social Media อื่นๆ

เจ้าของธุรกิจที่สนใจจะจ้างการทำโฆษณาออนไลน์ สำหรับทำ SEO ควรเข้าใจผู้ที่ทำโฆษณาออนไลน์ให้ดีก่อน เพื่อนำมาคำนวณกับค่าจ้างที่ต้องจ่ายไป และเพื่อให้งานที่ออกมาดีและคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่สุด

เปิดร้านขายของออนไลน์อย่างไรดีนะ? จึงจะทำให้มีออเดอร์สั่งซื้อให้มากขึ้นๆ

หัวใจของการขายของ ไม่ว่าจะเป็นการการขายของออนไลน์ หรือร้านค้าทั่วไปให้ประสบความสำเร็จ  ไม่ใช่แค่ลูกค้าหาร้านคุณเจอแล้วทุกอย่างก็จบ  เพราะมันอยู่ที่ลูกค้าด้วยว่าหากเจอร้านคุณแล้วจะซื้อของจากคุณไปหรือไม่?? การขายของออนไลน์ที่ในปัจจุบันมีร้านค้าหลายร้าน และผู้ซื้อเองก็ต้องเลือกจ่ายให้คุ้มกับการเงินที่ต้องควักกระเป๋าไปอย่างแน่นอน ส่วนหนึ่งก็จะมาจากการดูองค์ประกอบหลายๆ อย่าง  ซึ่งเทคนิคที่จะช่วยเพิ่มยอดออเดอร์ จากการขายของออนไลน์ให้มากขึ้นยังมีอีกหลายวิธี….ตามนี้เลย!!

การขายของออนไลน์..ร้านต้องดูน่าเชื่อถือ

การขายของออนไลน์นั้น ร้านของคุณจะต้องมีการจัดเพจให้น่าสนใจ  สวยงาม มีระเบียบ สะอาดและดูไม่รกจนเกินไป อีกทั้งจะต้องทำร้านให้เป็นที่น่าเชื่อถือ ด้วยการใส่ชื่อ ใส่เบอร์โทรของเจ้าของร้านซึ่งสามารถติดต่อได้จริง   และบอกให้ลูกค้ารู้ว่าคุณเป็นใครให้ชัดเจน เป็นการสร้างความน่าเชื่อถือจากการขายของออนไลน์ว่าร้านค้ามีตัวตนอยู่จริง ซึ่งจะทำให้ลูกค้าสามารถติดต่อคุณได้ตลอดเวลาที่ต้องการพรีออเดอร์

การขายของออนไลน์ ต้องเป็นสินค้าที่ขายจริง

การขายของออนไลน์ จะต้องบอกลูกค้าให้ชัดเจนว่า ในร้านของคุณมีสินค้าประเภทไหนบ้าง เป็นสินค้ามาจากไหน ทำจากอะไร  เอาไว้ใช้ทำอะไร รวมทั้งบอกรูปร่าง ลักษณะและจุดเด่นของตัวสินค้า โดยให้ข้อมูลรายละเอียดของสินค้าให้ครบ ถ้วน รวมทั้งการจัดทำโปรโมชั่นใหม่ๆ  หรือการอัพเดทข้อมูลเป็นประจำ การตอบคำถามลูกค้า ฯลฯ เพื่อแสดงให้เห็นว่า การขายของออนไลน์ร้านของคุณมีสินค้าอยู่จริง

การขายของออนไลน์ ต้องมีรูปสินค้าที่ดึงดูดสายตา

เน้นเลยว่าการขายของออนไลน์จะต้องมีรูปสินค้าที่สวย และคำบรรยาย โดยจะต้องเป็นรูปสินค้าชัดเจน สินค้าบางอย่างอาจถ่ายหลายๆ มุม เพราะคนซื้อไม่สามารถเห็นสินค้าจริง อย่าลืมว่าลูกค้าไม่สามารถเห็นภาพได้ทั้งหมด การบรรยายรายละเอียดจะช่วยทำให้ลูกค้าเห็นภาพพร้อมกับดูรูปประกอบไป ก็จะทำให้เข้าใจง่ายขึ้น  เพราะบางร้านอาจจะมีแต่ข้อมูลแต่ไม่มีรูปหรือสินค้า อาจทำให้ดูไม่น่าเชื่อถือได้

การขายของออนไลน์ ไม่ใช่ว่าแค่เอาข้อมูลมาใส่ในร้านเพียงอย่างเดียว แล้วก็รอแค่ลูกค้าเข้ามาเยี่ยมชม โดยที่ไม่ทำอะไรให้มีการกระตุ้นยอดขาย ซึ่งอย่าลืมว่าหากร้านคุณเพิ่งเปิด อาจจะต้องทำการโปรโมทสินค้า รวมทั้งการจัดโปร ฯ ต่างๆ และจะต้องมีการโต้ตอบกับลูกค้า การอัพเดทข้อมูลใหม่ๆ ซึ่งเป็นการแสดงถึงความเอาใจใส่ในการขายของออนไลน์ และยังเป็นการเพิ่มความน่าเชื่อถือเพื่อที่จะมีส่วนทำให้ยอดขายดีขึ้น      

เหตุผลที่แม่ค้าหลายคนชอบบ่นว่า ..ทำไมขายของออนไลน์มันยากจัง??

เพราะลูกค้าในปัจจุบันมีหลายระดับ ทำให้รูปแบบและการเข้าในการการขายของออนไลน์เป็นเรื่องที่ยุ่งยาก อีกทั้งช่องทางการจำหน่ายสินค้านั้น จะต้องเลือกให้ถูกกลุ่มเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นการขายของออนไลน์ลงในอินสตาแกรม หรือสื่อออนไลน์อื่นๆ  ซึ่งจะทำให้การขายของออนไลน์ที่คุณเลือกเป็นการสื่อสารที่ผิดวัตถุประสงค์ได้ และการที่คุณตัด สินใจเป็นพ่อค้าแม่ค้าบนโลกออนไลน์ หากไม่มีแบ็คที่ดี ไม่มีการวางแผนที่ชาญฉลาด ก็ยากเอาการ เพราะการขายของออนไลน์ จะพึ่งแต่เพจ เฟซบุ๊ค อย่างเดียวก็ไม่ได้ เพราะอย่าลืมว่านอกจากจะมีร้านค้ามากมายแล้ว กว่าจะทำให้คนเข้าถึงร้านของคุณได้เยอะๆ นั้นเป็นเรื่องยากไม่ใช่เล่น การขายของออนไลน์ สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มเปิดร้าน หรือเปิดร้านมานานแต่ไม่ประสบความสำเร็จ ซึ่งอาจตั้งคำถามว่าทำไมการขายของออนไลน์ถึงไม่ดี??? ทำไมนะ??

การขายของออนไลน์ ยอดติดตามน้อย

การขายของออนไลน์ที่มีคนเข้าถึงน้อย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีคนที่ทำธุรกิจแบบคุณมากมาย หรือ หากร้านคุณไม่ดังหรือไม่มีชื่อเสียง ไม่มียอดติดตามหรือยอดไลค์ โอกาสในการขายของออนไลน์บอกเลยว่ายากมาก คนที่เป็นแม่ค้า พ่อค้าออนไลน์ มักจะบ่นเสมอว่า ทำไมการขายของออนไลน์ได้น้อยจัง  ยอดไลค์น้อยจัง เพจเงียบเหมือนป่าช้า??  ส่งผลทำให้ทำให้ร้าน ค้าออนไลน์หลายเจ้าต่างหันมาทุ่มเงินในการจ้างเพิ่มยอดติดตามหรือยอดไลค์กันเป็นแถว เพื่อทำให้มีผู้ติดตามและกด ไลค์กันมากขึ้น ซึ่งการมีสมาชิกในเพจเยอะๆ จะทำให้ร้านค้าของคุณดูน่าเชื่อถือขึ้น ต้องแก้ปัญหาด้วยการจ้างปั๊มไลค์และเพิ่มติดตาม การเพิ่มยอดไลค์หรือยอดฟอล จะเห็นผลได้ดีกว่าเพจที่มีคนเข้าถึงน้อย

ทำไมการขายของออนไลน์ยากเหลือเกิน??

เพราะการลงประกาศการขายของออนไลน์ พ่อค้าแม่ค้าจะต้องรู้หลักและข้อมูลต่างๆ ของสินค้าเพื่อจะได้ขายสินค้าของตัวเองให้ได้จริงๆ ซึ่งบางคนคิดว่า การลงข้อมูลหรือรูปภาพไปโพสต์ไว้เฉยๆ โดยไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ  หากเป็นเช่นนั้นจริงๆ ก็จะทำให้สิ่งที่คุณตั้งใจจะขายของไม่ประสบผลสำเร็จแน่นอน เพราะการไม่ขยันโพสต์หรือขยันอัพเดทข้อมูลจะทำให้ลูกค้าขาดความเชื่อถือในเว็บคุณ แม้สินค้าดีแค่ไหนก็อาจทำให้ยอดขายตกได้ บางคนอยากจะลงประกาศฟรี แต่ไม่มีข้อมูลที่สร้างความน่าเชื่อถือ ก็ย่อมไม่เป็นผลแน่นอน

วิธีไหนที่จะทำให้สินค้าเข้าถึงกลุ่มคนได้ง่ายขึ้น??

แต่ละครั้งที่คุณทำการลงโพสต์บ่อยๆ หัวข้อหรือสินค้าของคุณที่ใส่ลงไป มันจะขึ้นลิงค์กับกูเกิ้ลทุกครั้งที่โพสต์ เพื่อให้เวลาคนหาคำๆ นั้นมาเจอคำที่คุณตั้งเป็นTag สำหรับหาคำนั้นได้ง่ายขึ้น  นอกจากนี้การขายของออนไลน์ให้ประสบความ สำเร็จ จากที่คุณโพสต์ไว้ มันจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยคือ มีสินค้าอยู่จริงบวกกับข้อมูลที่คุณลงไป ต้องกระชับ ได้ใจความ  มีการรีวิวเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ มีชื่อ เบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ของคุณ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้า ส่วนข้อความที่โพสต์ในการโฆษณา ต้องมีเนื้อเรื่อง ภาพ ให้สดคล้องกัน ด้วยหลักการขายของออนไลน์ก็จะทำให้สินค้าคุณมียอดขายที่เพิ่มขึ้นได้แบบชิลๆ   

สาเหตุหลัก..ที่ทำให้การขายสินค้าออนไลน์ไปไม่ถึงฝั่ง

เพราะปัจจุบันเราอยู่กันในโลกของยุคของดิจิตอล ทำให้ธุรกิจการขายสินค้าออนไลน์ที่ถือได้ว่าเป็นธุรกิจที่ได้รับความนิยมอย่างมาก รวมถึงพฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภคที่นับวันจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ หลาย ๆ คนหันมาเลือกความสะดวกสบายมากขึ้น ด้วยการสั่งซื้อสินค้าผ่านทางโลกโซเชียล ทำให้เจ้าของธุรกิจหลายรายต่างก็เริ่มทำการปรับตัว เพื่อเพิ่มช่องทางและโอกาสในการสร้างรายได้  แต่ก็ใช่ว่าทุกคนที่ทำการขายสินค้าออนไลน์หรือบริการออนไลน์จะประสบความสำเร็จเสมอไป  เพราะยังมีอีกหลายๆ อย่างที่ทำให้การขายสินค้าออนไลน์ไม่ประสบความสำเร็จ  มาดูสาเหตุที่ทำให้ธุรกิจของคุณไปไม่ถึงฝั่งกันดีกว่า ??

การขายสินค้าออนไลน์ มีคู่แข่งที่ขายสินค้าเหมือนกันมากเกินไป

หากคุณรู้ตัวว่าการขายสินค้าออนไลน์คุณเข้ามาในตลาดช้ากว่าคู่แข่ง ลองพยายามสร้างจุดขายและจุดเด่นที่แตกต่าง รวมทั้งการจัดโปรโมชั่นเพื่อเพิ่มยอดขายดูสิและอาจทำการตลาดออนไลน์ การโปรโมทเพจเพื่อให้เห็นผลเร็วขึ้น เพราะอย่าลืมว่าจำนวนร้านการขายสินค้าออนไลน์มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ละร้านค้าอาจมีสินค้าหรือบริการที่คล้ายคลึงหรือเหมือนกันมาก เพียงแต่ต่างกันตรงแบรนด์ หรือแม้แต่แบรนด์เดียวกันกลับมีเจ้าของหลายรายแข่งตัดราคากันเอง ทำให้ลูกค้าหรือผู้บริโภคก็ต้องเลือกซื้อหาสินค้าที่คิดว่าดีที่สุด คุ้มค่าที่สุด

การตกแต่งเว็บไซต์ไม่มีประสิทธิภาพในการขายสินค้าออนไลน์

ต่อให้การขายสินค้าออนไลน์ของคุณมีสินค้าหรือบริการขั้นเทพ มีสินค้าดีราคาถูก แต่หากเว็บไซต์ขาดความสวยงาม หรือภาพลักษณ์โดยรวมขาดความน่าเชื่อถือ ไม่มีการอัพเดทข้อมูล และตอบคำถามช้า ฯลฯ บอกเลยว่าลูกค้าไม่มีทางเข้ามาซื้อสินค้าอย่างแน่นอน ที่สำคัญการตกแต่งออกแบบหน้าเว็บไซต์ที่แลดูไม่เป็นระเบียบ ไม่สวยงาม ทำให้ร้านแลดูไม่น่าซื้อ อีกทั้งการโหลดข้อมูลเพื่อดูภาพ ไม่มีความรวดเร็วหรือเป็นระบบเก่าๆ แถมการรองรับการแสดงผลบนสมาร์ทโฟนก็เป็นไปได้ยากเย็น ซึ่งหากคุณปรับเปลี่ยนทุกอย่างที่กล่าวมาให้มีความทันสมัยขึ้น สวยงามขึ้นจะช่วยส่งผลดีต่อการขายสินค้าออนไลน์ของคุณอย่างมาก

รูปสินค้าไม่สวย ไร้คุณภาพต่อการขายสินค้าออนไลน์

ปัจจัยหลักที่ทำให้ผู้บริโภคเกิดการตัดสินใจเพื่อทำการซื้อสินค้าในอันดับต้นๆ คือรูปภาพสินค้าบนร้านค้าออนไลน์ ซึ่งเจ้าของธุรกิจการขายสินค้าออนไลน์ จะต้องใส่ใจในการถ่ายภาพสินค้า และต้องเลือกใช้รูปสินค้าที่มีคุณภาพ และมีความคมชัด  ที่สำคัญต้องไม่ก๊อปปี้รูปมาจากอินเทอร์เน็ตหรือคู่แข่งคนอื่น เพราะอาจทำให้เกิดการฟ้องร้องทางด้านลิขสิทธิ์ อีกทั้งทำให้ร้านค้าขาดความน่าเชื่อถือได้

ขาดการ TRAFFIC ที่ดีในการขายสินค้าออนไลน์

หัวใจหลักสำคัญของการทำให้มีผู้เข้าชมและเกิดการซื้อขายบนร้านค้าออนไลน์ คือการมีทราฟฟิกที่ดีและมีคุณภาพ ซึ่งการขายสินค้าออนไลน์ เจ้าของธุรกิจอาจต้องใช้งบในการทำโฆษณาให้มีคุณภาพและน่าเชื่อถือ เพื่อให้ร้านค้าของคุณเกิดการเข้าถึงจากกลุ่มเป้าหมาย แม้จะให้ผลลัพธ์จะช้ากว่าการทำโฆษณา การเลือกคอนเทนต์ที่น่าสนใจ จะเป็นประโยชน์ต่อลูกค้าเข้าที่เข้ามายังเว็บไซต์ของคุณ ซึ่งจะส่งผลต่อการเพิ่มยอดขายได้มากกว่า

หากคุณไม่มีการพัฒนาเว็บหรือสินค้า และไม่มีการจัดส่งที่มีประสิทธิภาพ  รวมทั้งเจ้าของธุรกิจขาดความอดทนเพราะคิดว่าจะได้กำไรเร็วๆ  ลองหันมาการขายสินค้าออนไลน์ของคุณดูว่า มีข้อบกพร่องอะไรอีกบ้างที่จะนำมาแก้ไขปรับปรุงธุรกิจของคุณให้ประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น

การขายสินค้าออนไลน์อย่างไร??? ให้มีลูกค้าอยู่บนเพจได้นาน

สำหรับคนที่มีสินค้าในสต๊อกมากมาย การขายสินค้าออนไลน์แต่ละประเภท จะต้องอาศัยกลยุทธ์ทางการขาย และการทำตลาดออนไลน์ค่อนข้างสูง เพราะหากไม่ลงโฆษณาออนไลน์ เชื่อแน่ว่ากว่าที่ใครๆ จะเห็นสินค้าของคุณ อาจจะใช้เวลา นานเกินไป แล้วยิ่งสมัยนี้ร้านค้าออนไลน์ต่างก็เปิดขึ้นมาราวกับดอกเห็ด หากมัวแต่มานั่งคิดโดยที่ไม่สนใจการทำตลาดออนไลน์หรือลงโปรโมทสินค้าอาจจะไม่ทันกินแน่ๆ กว่าจะได้ทุนคืนคงอีกนาน เพราะไม่เช่นนั้นคุณจะไม่สามารถทำยอด ขายหรือทำให้มีลูกค้าใหม่ๆ เพิ่มขึ้นมาได้ การขายสินค้าออนไลน์จะให้เกิดผลสำเร็จได้นั้น จะต้องเป็นสินค้าที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นและรูปลักษณ์ที่สวยงาม  สินค้าต้องเหมาะกับการใช้งาน เหมาะกับราคา…. มีเทคนิคการโปรโมทสินค้าวิธีไหนบ้างนะ?? ที่จะทำให้ลูกค้าเก่าอยู่กับเพจไปนานๆ และทำให้มีลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ บ้าง??

หากลยุทธ์ใหม่ๆ ในการขายสินค้าออนไลน์

เพื่อไม่ให้ของในร้านมีความจำเจมากเกินไป คุณสามารถนำสินค้าเข้ามาเสริมทัพในการขายได้และจะต้องรู้ว่าศิลปะในการขายสินค้าออนไลน์ไม่ว่าจะเป็นสินค้ายอดนิยม สินค้าตามเทรนด์ หรือสินค้าที่ซ้ำๆ กัน กับเพจอื่นๆ นั้น การที่จะตั้งเป้าโปรโมทการขายสินค้าออนไลน์ให้ได้ผลกำไรนั้นถือว่าจะมีผลต่อความสำคัญสำหรับการตัดสินใจของผู้ซื้อได้ไม่น้อยเลยทีเดียว ยิ่งหากร้านของคุณมีสินค้าดี ราคาไม่แพง และเป็นสินค้าที่สามารถใช้งานได้หลากหลายกลุ่มด้วยแล้ว อีกทั้งมีโปรโมชั่นดีๆ มีการทำการตลาดเริดๆ  ซึ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นกลยุทธ์ในการเพิ่มยอดขายทั้งสิ้น

หลักการขายสินค้าออนไลน์ให้มีคนสนใจ

สินค้าที่มีการแข่งขันค่อนข้างสูง จะทำให้การขายสินค้าออนไลน์ของแต่ละร้านจำเป็น ต้องหากลยุทธ์ใหม่ๆ และอาจจะคิดว่าจะทำอย่างไรดี?? เพื่อต่อยอดในการสร้างกำไร  ซึ่งหากมีการวางแผนและการโปรโมทการขายที่ดี ไม่ว่าจะเป็นการตั้งราคา การนำเสนอสินค้า ผ่านช่องทางต่างๆ ย่อมจะทำให้คุณรับรู้ถึงปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น ว่าควรจะทำอย่างไรต่อ??  เพราะสินค้าแต่ละร้านก็ถือว่ามีการแข่งขันกันสูง แม้แต่การจัดหน้าร้านที่สวยงามหรือจัดอีเวนต์เพื่อโปรโมทสินค้า ก็ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะทำให้ผู้ซื้อเข้าถึงแบบเฉพาะกลุ่มได้อีกด้วย ซึ่งถือเป็นการวางแผนการตลาดในการขายของออนไลน์ และคุณจะต้องคิดให้ออกว่ามีสินค้าอะไรบ้างที่คนกำลังนิยมและตลาดต้องการ  เพราะถือเป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะทำให้ผู้ขายมียอดขายเพิ่มขึ้น

การขายสินค้าออนไลน์ไม่ได้แม้จะไม่ได้ออกไปขายของที่ไหนแบบที่จะต้องนั่งตากแดด แต่นั่นก็ไม่ได้หมายถึงว่าการขายสินค้าออนไลน์จะต้องอยู่แต่กับที่เสมอไป เพราะการที่จะนั่งตบยุงรอลูกค้าเพียงอย่างเดียวอาจจะไม่ทันกินแน่ ยิ่งหากมีร้านค้าออนไลน์เกิดขึ้นมากมายด้วยแล้ว ยิ่งจะทำให้คุณต้องกระตือรือร้น และจะต้องหาทางดึงลูกค้าให้อยู่ในเพจได้นานๆ พร้อมกับยอดขายที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งอาจต่อยอดสินค้าใหม่ๆ เข้ามาเพื่อให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของลูกค้าก็ได้

อยากเพิ่มยอดขายให้สินค้า!!! จะเริ่มวางแผนโฆษณายังไงดีนะ??

การเปิดธุรกิจร้านค้าออนไลน์ หากมีการวางแผนให้ดี ก็จะสามารถนำข้อมูลมาวิเคราะห์และทำการประเมินผลการขายสินค้าได้ อีกทั้งยังช่วยต่อยอดในการทำแคมเปญใหม่ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องช่วยเพิ่มยอดขายด้วยเช่นกัน เพราะการจะทำแผนการตลาดเพื่อทำให้สินค้าประสบความสำเร็จและเป็นที่รู้จักบนโลกออนไลน์มากขึ้น จะต้องมีออเดอร์สั่งเข้ามามากขึ้น หรือมีการแชร์บอกต่อ จนสามารถช่วยทำให้เพิ่มยอดขายได้ นอกจากจะมีเว็บไซต์ที่ดีเพื่อทำการโปรโมทสินค้า ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ไม่เลว??  แต่ทั้งนี้จะต้องมีเงินทุนมากพอสำหรับการทำธุรกิจและการวางแผนที่ดี ซึ่งเป็นอีกหนึ่งการวางแผนที่จะช่วยเพิ่มยอดขายให้มากขึ้น… มาวางแผนเพื่อเพิ่มยอดขายให้กับสินค้าให้มันกระฉูดกันดีกว่า

กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน

ควรมีตัวเลขที่สามารถใช้ในการวัดผลสำหรับการตั้งเป้าหมาย ด้วยการหาตัวเลขอย่างงบประมาณสำหรับใช้ในการลงโฆษณา  ซึ่งหากต้องการเพิ่มยอดขายอาจจะต้องลงโฆษณาออนไลน์ หรือทำการตลาดออนไลน์ ซึ่งจะต้องคำนวณด้วยว่าควรจะขายสินค้าให้ได้กี่ชิ้น หรือคำนวณว่าค่าโฆษณาต่อการขาย 1 ชิ้นนั้นควรอยู่ที่การใช้งบประมาณเท่าไร เพราะหากสามารถกำหนดเป้าหมายต่างๆ และความคาดหวังที่ชัดเจนได้นั้น จะทำให้เห็นว่าเป้าหมายในการลงโฆษณาก็คือการเพิ่มยอดขายนั่นเอง

การลงสื่อออนไลน์ในช่วงเวลาเหมาะสมเพื่อเพิ่มยอดขาย

หากคุณต้องการขายอาหารเสริมลดน้ำหนัก  ก็ควรเลือกช่วงเวลาออนไลน์ในการลงสื่อโฆษณาในช่วง06.00-09.00 น. ,12.00-14.00 น. และ 18.00-21.00 น.  อาจจะลองปล่อยการโพสต์ หรือการโฆษณาออนไลน์ในช่วงเวลาดังกล่าว และทำการวัดผลจากข้อมูลเชิงลึก จะทำให้เห็นการเข้าถึงของลูกค้า  และยังเป็นการกระตุ้นต่อมความอยากให้เพื่อช่วยในการตัดสินใจและยังช่วยเพิ่มยอดขายได้อีกด้วย   และการจะขายสินค้าให้มีกำไรได้นั้น ก่อนทำโฆษณาออนไลน์จะต้องทราบว่ากลุ่มเป้าหมายสินค้าของคุณคือใคร อยู่ที่ไหน ใช้ อินเทอร์เน็ตเวลาใด  หรือเวลาไหนสะดวกในการซื้อสินค้า  เพื่อที่จะจะได้เลือกกลุ่มเป้าหมายสำหรับการวางแผนการส่งโฆษณาได้อย่างตรงกลุ่ม

กระตุ้นโฆษณาเพื่อการตอกย้ำการเพิ่มยอดขาย

หากมีการกระตุ้นจากการส่งโฆษณาบ่อยๆ  อาจส่งผลทำให้ลูกค้าที่ต้องการสินค้าเหล่านั้น ตัดสินใจซื้อสินค้าได้เร็วขึ้น  ซึ่ง การตอกย้ำโฆษณาเป็นส่วนหนึ่งของการเพิ่มยอดขาย ซึ่งจะไปแสดงยังลูกค้าที่เข้ามาดูเพจหรือเว็บไซต์ รวมทั้งการแชร์ต่อๆ บนโลกออนไลน์   ซึ่งลูกค้าบางคนอาจจะยังมีความลังเล และไปหาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ การตอกย้ำ และกระตุ้นโฆษณาเพื่อเพิ่มยอดขายแม้จะเป็นอีกหนึ่งหนทางเลือกกับแคมเปญของคุณก็ตาม แต่หากจะให้ได้ผลจริงๆ นั้น จะต้องขึ้นอยู่ด้วยว่า..คุณได้ทำให้ลูกค้ามั่นใจในสินค้าว่ามีคุณภาพและคุ้มค่ากับเงินที่จะต้องจ่ายไปมากแค่ไหน ??

เพิ่มยอดขายด้วย Influencer ในธุรกิจออนไลน์….ช่วยได้อย่างไร?

ปัจจุบันมีพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์หลายคนหันมาใช้ Influencer กันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคนที่มีอิทธิพลบนโลกออนไลน์ อย่างคนในวงการบันเทิง ดารา นักร้อง  เน็ตไอดอล หรือบล็อกเกอร์  ฯลฯ  รวมทั้งอีกหลายๆ คนที่อยู่ในแวดวงต่างๆ ในการทำธุรกิจออนไลน์  ที่หันมาใช้ Influencer เพื่อเพิ่มยอดขายกันมากขึ้น แถมยังกลายมาเป็นหนึ่งในวิธีการทำการตลาดให้กับสินค้าซึ่งนิยมใช้กันมากในขณะนี้  เพราะการใช้ Influencer เป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งที่สำคัญในการใช้โปรโมทสินค้าของตัวเอง เพราะในปัจจุบันการเลือกโปรโมทสินค้าด้วยการลงโฆษณาวิธีเดิมๆ  หรือลงโฆษณาตามสื่อออนไลน์เพียงอย่างเดียว อาจไม่เพียงพอต่อการสร้างการรับรู้  รวมถึงการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคอีกด้วย  ส่งผลให้เจ้าของธุรกิจจึงต้องมองหาช่องทางใหม่ๆ เพื่อเพิ่มยอดขายและช่วยกระจายข่าวสารข้อมูล เพื่อที่จะทำให้สินค้าของคุณเป็นที่รู้จักมากขึ้น

การสื่อสารจากการใช้ INFLUENCER เพื่อเพิ่มยอดขาย

การที่คุณใช้ Influencer ซึ่งเป็นผู้ที่มีอิทธิพลต่อกลุ่มเป้าหมาย เป็นคนสื่อสารและคอยพรีเซ้นต์สินค้าหรือบริการ ด้วยการส่งข้อมูล หรือเลือกหัวข้อต่างๆ ที่ต้องการจะนำเสนอไป กับการนำเสนอแตกต่างกันไป ซึ่งก็เพื่อหวังจะเพิ่มยอดขายให้เพิ่มขึ้นจากที่อยู่  โดยเฉพาะหากเจ้าของกิจการมีสินค้าหรือบริการใหม่ๆ ที่ต้องการจะทำการโปรโมท คุณอาจไม่จำเป็น ต้องจ้างนักเขียน หรือนักข่าว มาช่วยทำข่าวก็ได้ เพราะแม้ว่า Influencer จะมีพื้นที่ในหน้าหนังสือพิมพ์ หรือจะเป็นตามสื่อต่างๆ แต่หากข้อมูลที่ลงไปไม่เป็นไปตามความต้องการของผู้บริโภค ก็อาจทำให้การเพิ่มยอดขายไม่ประสบความสำเร็จแน่นอน แต่หากคุณใช้พื้นที่ของคุณและใช้ Influencer  รวมทั้งองค์ประกอบต่าง ๆ ให้ดี ก็อาจจะช่วยเพิ่มยอดขายได้แน่นอน

เพิ่มยอดขายจากการเลือก Influencer ให้เหมาะสมกับสินค้า

ควรเลือกใช้ Influencer ให้เหมาะสมกับแบรนด์และกลุ่ม เป้าหมายที่ต้องการจะสื่อสาร ก่อนที่จะส่งข้อมูลข่าวสารของสินค้าไปยังผู้บริโภค เพราะนอกจากจะช่วยทำให้เนื้อหาที่ส่งไปมีการเข้าถึงตรงตามเป้าหมายที่ตั้งไว้แล้ว ยังจะช่วยเพิ่ใยอดขายได้แบบไม่น่าเชื่อ เพราะภาพที่ออกไปนั้นจะทำให้มีส่วนของการตัดสินใจได้ง่ายขึ้นระหว่างสินค้าและบริการกับผู้บริโภค  ซึ่งการใช้ Influencer ยังมีส่วนช่วยทำให้สินค้าเป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็วทำให้เป็นการเพิ่มยอดขายไม่ยาก ยิ่งหากสินค้าของคุณ เป็นสินค้าใหม่ที่ยังไม่มีการทำตลาด หากมีการใช้ Influencer ที่มีชื่อเสียง.บอกเลยว่า..จะช่วยให้แบรนด์ของคุณเป็นที่รู้จักมากขึ้น คนกดไลค์แอนด์แชร์มากขึ้น ที่สำคัญคือจะช่วยเพิ่มยอดขายมากขึ้นตามไปด้วย

เพิ่มยอดขายด้วยคอนเทนท์…เพื่อให้กดแชร์ต่อได้ง่าย

การทำคอนเทนท์ที่ไม่ว่าจะทำเป็นรูปแบบของคลิป หรือการเขียนคอนเทนท์  รวมทั้งแคปชั่นโดนๆ  รวมทั้งการป้อนข้อมูลรายละเอียดสินค้าให้กับ Influencer ว่าคุณต้องการจะสื่ออะไร พูดถึงอะไร  ซึ่งหากบอกรายละเอียดคร่าวะ จะทำให้พวกเขาดำเนินการให้คุณทั้งหมด ซึ่งหากเป็น Influencer  เป็นผู้มีอิทธิพลต่อลูกค้าได้มากมาย อาจจะทำให้โพสต์ของคุณได้ถูกนำไปแชร์บอกต่อบนโลกออนไลน์ไอย่างแน่นอน

การใช้ Influencer มาช่วยโน้มน้าวใจให้กับผู้ซื้อ เพื่อช่วยในการพรีเซ้นต์สินค้าหรือบริการ นอกจากจะช่วยสร้างความน่าเชื่อให้กับแบรนด์แล้ว ยังช่วยเพิ่มยอดขายให้เจ้าของธุรกิจร้านค้าออนไลน์ได้อีกด้วย