คลังเก็บป้ายกำกับ: โปรโมทสินค้า

เทคนิควิธีสร้างการค้นหาคำใน google

ecommerce-3563183__340

ทราบหรือไม่ว่าการค้นหาคำค้นหาใน google กำหนดขึ้นได้อย่างไร??  สำหรับผู้ที่ทำเว็บไซต์ขึ้นมาใหม่ อาจจะกำลังหนักใจกับการกำหนดคำค้นหาใน google หรือที่เรียกว่า keyword ให้กับเว็บไซต์ของตนเองอย่างแน่นอน  ในการกำหนดคำค้นหาใน google เพื่อหาข้อมูลหรือคำตอบที่อยากรู้ จะต้องกำหนดคำค้นหาให้ดีและเหมาะสม เพราะจะมีส่วนทำให้เว็บติดอันดับคำค้นหาใน google และการ search engine ต่างๆได้อย่างไม่ยาก เทคนิคของการกำหนดคำค้นหาใน google และการสร้างลิงค์เชื่อมโยงสัมพันธ์กันและมีผลอย่างไรกับคำค้นหาที่คุณได้กำหนดขึ้นมาในเว็บไซต์หรือเว็บเพจ

 

เรียนรู้การหาคำค้นหาใน google

ปกติการกำหนดคำค้นหาใน google หรือ keyword  มักจะถูก google ตีความหมายได้เองจากเนื้อหาที่คุณเขียนไว้ในหน้าต่าง ๆ แต่ก่อนที่กูเกิลจะเข้ามาตีความหมายในเว็บของคุณให้เป็นคำค้นต่าง ๆ ได้นั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่คุณอาจจะต้องทำลิงค์เชื่อมโยงจากเว็บอื่นเสียก่อน   หากจะถามว่ากูเกิลจะรู้จักคำค้นหาในเว็บของคุณได้อย่างไร? ตามปกติกูเกิลจะอ่านข้อมูลทั้งหมดจาก html ของเว็บเพจต่าง ๆ ในเว็บของคุณ และเมื่อเดินทางไปถึง รูปแบบที่กูเกิลมองเห็นนั้นจะแตกต่างจากมุมมองของคนทั่วไป

 

หน้าเว็บไซต์ในแบบที่เราสามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า

รูปแบบเว็บไซต์หน้าตาที่สวยงามไม่มีผลอะไรกับอันดับการหาคำค้นหาใน google แต่จะมีผลต่อความรู้สึกผู้เยี่ยมชมมากกว่า ซึ่งการที่กูเกิลเริ่มรู้ว่าการหาคำค้นหาใน google จากการค้นเว็บไซต์ของคุณเกี่ยวข้องกับอะไรนั้น  จะมองจากข้อมูลอ้างอิงคือ <title>  , <description> ,<keyword>  ,<tag ต่างๆตามเนื้อหาในหน้านั้น>  และ <footer text> ซึ่งการประกาศเพื่อหาคำค้นหาใน google  เพื่อให้กูเกิลรู้จักคำค้นหลักที่ใช้ในเว็บของคุณ โดยคุณเองจะจำเป็นต้องมีการเน้นคำค้นหาไว้เป็นคำแรกใน <description> และ <keyword> ส่วนในเนื้อหาก็ควรมีการเน้น <strong>text</strong> หรือ <u>text</u> แต่ต้องไม่ใช่การเขียนในลักษณะ spam keyword เพราะนอกจากจะไม่เป็นผลดีต่อ google ในระยะยาวแล้ว เว็บของท่านก็อาจจะถูกเพิกเฉยจากระบบค้นหาไปเลยก็เป็นได้

 

เนื้อหาในเว็บไซต์มีความสำคัญต่อกระบวนการค้นหา

ไม่ว่าคุณจะทำตามขั้นตอนของการหาคำค้นหาใน google  ได้ดีแค่ไหนก็ตาม หากเนื้อหาที่คุณใช้เป็นการก้อปปี้มาจากอีกเว็บหนึ่ง โดยเหมือนกันทุกตัวอักษร ก็ย่อมที่จะไม่มีผลใด ๆ  นอกเหนือจากการไปช่วยกระตุ้นด้วยการเชื่อมโยงลิงค์ของเว็บที่คุณก็อปปี้มา ซึ่งความสำคัญของการเชื่อมโยงลิงค์จัดเป็นองค์ประกอบหนึ่งเพื่อชี้นำกูเกิลให้เห็นถึงความสำคัญของเว็บเพจหน้านั้นๆว่ามีความนิยมเพียงใด  ซึ่งตรงนี้เองอาจทำให้ google มองเห็นถึงความสำคัญของเว็บที่มีลิงค์เชื่อมโยงมามากกว่าเว็บที่ไม่มีลิงค์เชื่อมโยงนั่นเอง

 

หากเว็บของคุณไปก้อปปี้เว็บอื่นมาแบบชนิดที่เรียกว่าเหมือนกันแทบทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหน้าตา หรือเนื้อหา แม้จะสร้างลิงค์ได้แต่น้ำหนักในการให้คะแนนจะเทไปให้กับเว็บที่โปรโมทที่เหนือกว่าซึ่งผลที่ได้ออกมาจะต่างกันตามแต่การโปรโมทของแต่ละคน

4 ไอเดียร์ดี ๆ ของการครีเอทคอนเท้นต์ใน Facebook ให้น่าสนใจ

laptop-1160447__340

นับวัน Reach จะน้อยลงไปทุกทีสำหรับการโพสต์บนเฟสบุ๊ค ที่แม้จะโพสต์กระหน่ำขนาดไหน แต่กลับทำให้แบรนด์ต่าง ๆ ซบเซาลงราวกับป่าช้า เพราะเงียบเกิ๊น.. เหตุนี้ทำให้เพจต่าง ๆ หันมาให้ความสำคัญกับการสร้างสรรค์คอนเท้นต์กันมากขึ้น เพื่อสร้าง Engagement ระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค ไอเดียร์ดี ๆ ที่มีประโยชน์กับการสร้างคอนเท้นต์บน Facebook นั้นสามารถทำได้ง่าย ๆ ซึ่งจะช่วยทำให้เพจหรือ Facebook  ของคุณกลับฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง

 

1.จัดกิจกรรม Like หรือคอมเม้นท์โพสต์

วิธีง่ายๆ ในการสร้างไอเดียร์คอนเท้นต์ เพื่อสร้าง Engagement ระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค อาจทำให้โดยการจัดกิจกรรมเพื่อเชิญชวนให้พวกทุกคนเข้ามากด Like หรือคอมเม้นท์แสดงความคิดเห็น แล้วค่อยทำการสุ่มหาผู้ชนะ ซึ่งเจ้าของเพจหรือเฟสจะต้องมีของรางวัลเล็กๆ น้อยๆ เป็นการตอบแทน การเขียนคอนเท้นต์สั้น ๆ เพื่อเชิญชวน พร้อมกับเขียนกติกาและของรางวัลที่จะได้รับ จะทำให้คอนเท้นต์ดูน่าสนใจมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อการแชร์อีกด้วย

 

2.จัดกิจกรรมให้โพสต์ภาพ หรือวิดีโอ  

นอกจากการกด Like หรือคอมเม้นท์ใต้โพสต์กิจกรรมแล้ว การทำคอนเท้นต์ให้น่าสนใจนอกเหนือจากการเขียนบทความทั่วไปก็คือ การเชิญชวนให้แฟนเพจร่วมส่งภาพ หรือวิดีโอเพื่อเป็นการร่วมทำกิจกรรมบนไทม์ไลน์ของเพจ ซึ่งวิธีนี้ถือเป็นการกระตุ้นให้พวกเขาแสดงความคิดสร้างสรรค์ในแบบของตัวเอง  อย่างการเขียนคอนเท้นต์สั้นๆ เพื่อเชิญชวนประกวดภาพถ่าย/วิดีโอในเทศกาลต่างๆ  เพื่อลุ้นรับรางวัลนั่นเอง..

 

3.ประกวดคิดแคปชั่นเด็ดๆ

ยังคงอยู่ที่การใช้ความคิดสร้างสรรค์ ด้วยการมองหาภาพดีๆ สักภาพ แล้วจัดกิจกรรมประกวดแคปชั่นเด็ด ๆ โดน ๆ หรือแคปชั่นโดนใจ ซึ่งเชื่อว่าจะต้องมีผู้ให้ความสนใจแน่นอน การเขียนคอนเท้นต์เชิญชวนให้คนเข้าร่วมกิจกรรมนั้น จะต้องน่าสนใจไม่แพ้บทความดี ๆ โดยเฉพาะกิจกรรมที่เป็นการสร้างสรรค์ไอเดียร์ ที่ชาวเฟสบุ๊คอาจถนัดอยู่แล้ว ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการแชร์ต่อได้

 

4.ค้นหาไอเดียใหม่ๆ จากผู้บริโภค

การจะพัฒนาสินค้าได้นั้น จะต้องมีพื้นฐานสำคัญคือ ความต้องการของผู้บริโภค  ที่คุณสามารถขอไอเดียใหม่ๆ หรืออาจใช้ความคิดเห็นจากลูกค้าผ่านการจัดกิจกรรมต่าง ๆ  อย่างการประกวดตั้งชื่อผลิตภัณฑ์ใหม่ หรือสิ่งที่อยากให้แบรนด์พัฒนาในผลิตภัณฑ์ตัวต่อไป ใครมีไอเดียดีที่สุดจะเป็นผู้ชนะ ซึ่งการเขียนคอนเท้นต์ในลักษณะนี้ต้องสื่อความหมายให้ผู้อ่านเข้าใจได้ง่ายด้วย

 

การทำคอนเท้นต์ด้วยการเขียนบทความดีๆ มีสาระ มีประโยชน์ หรือบอกในเรื่องที่ต้องการจะสื่อต่อผู้บริโภค แต่ละครั้งอาจไม่ใช่การสื่อสารทางเดียว   หรือการไลฟ์สดที่แบรนด์ออกมาพูดแล้วก็จบไป ซึ่งทั้งการเขียนคอนเท้นต์หรือการไลฟ์สดก็มีส่วนสำคัญไม่น้อย หากมีการตั้งคำถามในขณะที่ไลฟ์ ก็อาจเปิดโอกาสให้ User ร่วมส่งคำตอบที่ถูกต้องเข้ามาเพื่อลุ้นรับของรางวัล เพื่อที่จะประกาศรายชื่อผู้โชคดีก่อนจบไลฟ์ เพื่อดึงดูดให้พวกเขาดูไลฟ์จนจบ หรือจะส่งคำตอบหลังจากเขียนคอนเท้นต์จบ แล้วส่งเป็นคอมเม้นต์ หรือคำตอบก็ได้เช่นกัน

 

4 ไอเดียที่แนะนำไปนี้ เราหวังว่าคุณจะนำไปใช้ประโยชน์ได้บ้าง เพื่อสร้างการมีส่วนร่วม และเพิ่ม Reach ให้เพจ ที่สำคัญคือ อย่ามองข้ามความคิดเห็นที่ได้รับจากผู้บริโภค เพราะสิ่งเหล่านี้จะนำไปต่อยอดและใช้งานได้จริง

เจ๋งอ่ะ!! 5 เคล็ดลับการทำอินโฟกราฟฟิกเพื่อเพิ่มยอดไลค์!!

internet-1026473__340

เชื่อว่า ณ วันนี้มีหลายต่อหลายคน โดยเฉพาะชาวออนไลน์อาจจะต้องหลงรักอินโฟกราฟฟิกกันมากขึ้น ยิ่งอินโฟกราฟฟิกจากเพจไหนดังๆ  หรือมีเนื้อหาดี ๆ มีภาพสวย ๆ อาจจะต้องรีบทำการแชร์เพื่อส่งต่อให้เพื่อนในกลุ่มแน่นอน  ซึ่งในปัจจุบันตามเพจดัง ๆ รวมทั้งคนดัง และคนที่อยากกระตุ้นยอดขาย ต่างหันมาสร้างอินโฟกราฟฟิกเพื่อเพิ่มยอดไลค์และต่อยอดไปถึงการเพิ่มยอดขายมากขึ้น การนำเสนอข้อมูลในรูปแบบ อินโฟกราฟฟิก และยังกลายเป็นทางเลือกใหม่ในการนำเสนอข้อมูลที่ได้รับความนิยมอย่างมากในเวลานี้ และเริ่มพบเห็นกันได้บ่อยในบ้านเรา คงจะดีไม่น้อยหากลองทำอินโฟกราฟฟิกเพื่อสร้างความน่าสนใจให้กับเว็บหรือเพจของคุณ มาดูเคล็ดการสร้างอินโฟกราฟฟิก แบบเจ๋ง ๆ  ซึ่งจะทำให้กลายเป็นกระแสหรือ Viral บอกต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพกันดีกว่า!!

 

1.กำหนดเป้าหมายอย่างชัดเจน

ก่อนนำเสนออินโฟกราฟฟิกจะต้องดูการนำเสนอด้วยว่า ทำเพื่อจุดประสงค์อะไร อย่างการเข้าถึงและหาลูกค้ากลุ่มใหม่ หรือเพื่อสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ รวมทั้งเพื่อการศึกษา หรือเพื่อต้องการความบันเทิงกับผู้อ่าน โดยต้องไม่ลืมว่าการกำหนดเป้าหมายอย่างชัดเจนในการทำอินโฟกราฟฟิกจะช่วยทำให้สามารถเลือกรูปแบบการนำเสนอได้อย่างง่ายและเหมาะสมมากขึ้น ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นประโยชน์ในการเลือกหัวข้อและการเลือกใช้ระดับของภาษาให้เหมาะสม

 

2.การกำหนดใจความสำคัญในการนำเสนอ

ในการทำอินโฟกราฟฟิก ควรนำเสนอเพียงเรื่องเดียว เพื่อเป็นการป้องกันการสับสนของผู้ชมในการเข้าถึงข้อมูล อีกทั้งเนื้อหาที่นำสนอบนอินโฟกราฟฟิกจะต้องมีความทันสมัยสดใหม่ และจะต้องสามารถสื่อสารได้อย่างตรงประเด็น, สั้นและกระชับ เนื่องจากผลการสำรวจพบว่าผู้ชมส่วนใหญ่มักจะใช้เวลาในการอ่านข้อมูลมากที่สุดเพียง 3 นาทีเท่านั้น

 

3.นำเสนอหัวเรื่องที่น่าดึงดูด

มีการสำรวจข้อมูลที่ใช้ในการนำเสนอมาเป็นอย่างดี  รวมทั้งการนำเสนอหัวเรื่องที่น่าดึงดูด อาจมีการรวบรวมข้อมูลจากรอบด้านไม่ว่าจะเป็นข้อมูลจากโซเชียลมีเดียร์ หรือสถิติและข้อมูลสาธารณะเพื่อให้เห็นถึงมุมมองที่หลากหลายและมีความถูกต้องยิ่งขึ้น การเลือกหัวเรื่องและเนื้อหาที่ดึงดูดความสนใจ จะทำให้อินโฟกราฟฟิกมีความโดดเด่นและน่าติดตาม ผู้ชมกว่า 90% จะตามเข้าไปดูเนื้อหาบนอินโฟกราฟฟิกเพิ่มเติมหากพบว่าหัวเรื่องนำเสนอนั้นมีความน่าสนใจ

 

4.ออกแบบอินโฟกราฟฟิกให้มีความโดดเด่นสะดุดตา

การออกแบบอินโฟกราฟฟิกนอกจากช่วยเรื่องความสวยงามแล้วยังช่วยให้ผู้ชมสามารถเข้าถึงและทำความเข้าใจเกี่ยวกับข้อมูลที่นำเสนอได้ง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อการบอกต่อและการแชร์อินโฟกราฟฟิกไปอย่างกว้างขวาง โดยผ่านช่องทางต่างๆไม่ว่าจะเป็น โซเชียลมีเดียอย่าง Facebook, Twitter หรือ Pinterest รวมถึงการนำเสนออินโฟกราฟฟิกบนเว็บไซต์ที่เป็นแหล่งรวบรวมอินโฟกราฟฟิก  ซึ่งเป็นการเพิ่มการมองเห็นจากผู้ชมเพิ่มมากขึ้น

 

5.การสรุปข้อมูลทั้งหมดที่นำเสนอ

การสรุปอินโฟกราฟฟิก จากรูปด้วยข้อความสั้น กระชับจะช่วยให้ผู้ชมสามารถเข้าใจถึงใจความสำคัญของเนื้อหาที่นำเสนอได้อย่างถูกต้องและตรงประเด็น

การเลือกภาพที่มีความโดดเด่นสะดุดตาในการทำอินโฟกราฟฟิกจะเป็นการเพิ่มการจดจำแบรนด์ของผู้พบเห็นได้ดียิ่งขึ้น หากเป็นภาพที่มีใบหน้าคนอยู่ในภาพจะยิ่งช่วยดึงดูดความสนใจจากผู้พบเห็นมากขึ้น สิ่งสำคัญคือภาพ Cover จะต้องมีความเกี่ยวข้องกับข้อความในอินโฟกราฟฟิกด้วย

พื้นฐานง่ายๆสู่ความสำเร็จ..กับประโยชน์ของการแลกลิงค์เพื่อนบ้าน

social-media-marketing-2353347__340

การแลกลิงค์เพื่อนบ้านมีมานานแล้ว และเคยได้รับความนิยมอย่างมาก  ในช่วงที่บ้านเราอยู่ในยุคบุกเบิกของการสร้างเว็บไซต์ที่ใคร ๆ ต่างก็ต้องวิ่งหาการแลกลิงค์เพื่อนบ้านกันแทบทุกคน เพราะยุคแรกของการทำเว็บไซต์นั้นยังไม่มีแหล่งรองรับการโปรโมทเว็บไซต์มากมายเหมือนสมัยนี้ ทำให้หลาย ๆ เว็บต่างมองหาสารบัญเว็บเพื่อโปรโมทเว็บของตน แม้แต่กูเกิลเองก็ยังไม่เกิด  ทำให้การแลกลิงค์กันกับเว็บที่คุณไม่เคยรู้จักเจ้าของเว็บเหล่านั้นมาก่อนเป็นการทำเพื่อโปรโมทเว็บ ซึ่งถือว่าเป็นการอาศัยกันและกัน เรียกได้ว่าการแลกลิงค์เพื่อนบ้านนั้นให้ประโยชน์ที่ชัดเจน คือการมีผู้คนจากเว็บไซต์ที่คุณทำการแลกลิงค์ให้เขามาเยี่ยมชมเว็บของคุณบ้าง ยิ่งแลกกับเว็บไซต์ที่มีคนเข้ามากๆ ก็ยิ่งส่งผลให้คนเข้าเว็บของคุณมากตามไปด้วย จนกระทั่งกูเกิลเข้ามามีบทบาทที่เหนือกว่าสารบัญเว็บและระบบการจัดอันดับเว็บทำให้การแลกลิงค์มีการพัฒนาขึ้น

 

ข้อดีของการแลกลิงค์ในยุคดิจิตอล

ยุคปัจจุบันนั้นการแลกลิงค์นั้นก็ยังคงมีอยู่ แต่การแลกลิงค์ในยุคดิจิตอลนี้ แตกต่างจากยุคก่อน ๆ หลายอย่าง เพราะการแลกลิงค์ในปัจจุบันจะช่วยให้เว็บของคุณได้ประโยชน์หลายอย่างมากมาย นอกเหนือจากผู้เยี่ยมชมที่คลิกมาจากเว็บที่คุณได้แลกลิงค์ไว้  อย่างการได้สมาชิกเข้าชมเพิ่มขึ้นจากเว็บไซต์ที่คุณไปทำการแลกลิงค์ หรือการได้คะแนนแบล็คลิงค์สำหรับใช้ในการปรับอันดับการค้นหาของ search engine จาก Google, Bing และ Yahoo ซึ่งจะช่วยให้เว็บของคุณมี PR ที่สูงขึ้น และช่วยทำให้เว็บของคุณมี TrustRanks ที่มากขึ้น ที่สำคัญยังทำให้อันดับใน alexa สูงขึ้นอันเนื่องมาจากคนเข้าชมที่มากขึ้น

 

การแลกลิงค์ส่งผลต่อ search engine จากกูเกิลได้อย่างไร??

หลายคนอาจกำลังเคร่งกับการแลกลิงค์อย่างหนัก ทำให้ต้องหาลิงค์เพื่อนบ้านไม่ว่าจะ banner หรือ text เต็มหน้าเว็บไปหมด แต่ความจริงแล้วคุณไม่จำเป็นที่จะต้องนำลิงค์เพื่อนบ้านทั้งหมดมาติดที่หน้าแรกเว็บของคุณก็ได้ เพราะในปัจจุบัน Algorithm ได้ปรับแนวคิดในการค้นหา โดยยังรวมไปถึงบอทของกูเกิล แต่ก็สามารถไต่ไปยังหน้าที่คุณติดลิงค์ได้แม้ว่าหน้านั้นจะอยู่ลึกเพียงใดก็ตาม เพียงแค่คุณทำลิงค์ที่หน้าแรกเพื่อเชื่อมไปยังหน้าดังกล่าวที่อาจจะถูกทำขึ้นมาเป็นหน้ารวมลิงค์เพื่อนบ้านได้ ซึ่งการแลกลิงค์เพื่อนบ้านระหว่างสองเว็บนั้น บางคนยินยอมที่จะแลกลิงค์กับเว็บที่สูสีกับเว็บของตนเท่านั้นเพื่อไม่ให้ตัวเองเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ทำให้ไม่แปลกเลยหากคุณได้ทำเว็บขึ้นมาใหม่แล้วไปขอแลกลิงค์กับเว็บที่เปิดมานานแล้ว มี PR ที่เหนือกว่า โดยที่ webmaster เหล่านั้นจะปฏิเสธคำขอแลกลิงค์เพื่อนบ้านกับคุณ

 

การแลกลิงค์ที่ไม่ควรพลาด

เพราะการแลกลิงค์เพื่อนบ้านที่เสียเปรียบนั้น ยังรวมไปถึงเว็บที่มีการใช้ Meta หรือการทำลิงค์แบบ nofollow แต่จุดนี้ไม่สามาถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าหากไม่ทำการใช้เครื่องมือบางตัวอย่างการทำ seo toolbar เพื่อสังเกตซึ่งหากคุณทำการแลกลิงค์กับเว็บที่ใช้การทำ nofollow คุณแทบจะไม่ได้อะไรเลยจากการแลกลิงค์ ก่อนแลกลิงค์จึงควรดูจากจุดที่อีกฝ่ายติดลิงค์ก่อนว่าติดในหน้าใดและลิงค์อื่น ๆ ที่ติดอยู่นั้นทำ nofollow ไว้หรือไม่   ซึ่งการแลกลิงค์ให้ได้ผลดีที่สุดคือการแลกลิงค์กับเว็บที่มีเนื้อหาใกล้เคียงกับเว็บของคุณ และหากทำได้ทั้งคุณและเพื่อนบ้านจะได้คะแนนจาก search engine ที่มากมายเลยทีเดียว

วิธีทำแคมเปญในการขายสินค้าออนไลน์..เพื่อทุบยอดขายให้ปัง!!

man-1633667__340

Influencer Marketing ไม่ใช่แค่เป็นการจ้างคนดังทำคอนเทนต์โพสต์เท่านั้น หากแต่ยังเป็นการว่าจ้างคนดัง ๆ เพื่อเผยแพร่การขายสินค้าออนไลน์บนโลกอินเทอร์เน็ต ที่เป็นกลยุทธ์การทำการตลาดและยังได้รับความนิยมอยู่เรื่อย ๆ เพราะไม่ว่าจะเป็นเน็ตไอดอลหรือคนในวงการบันเทิง ดารา นักร้อง ซึ่งเป็นสื่ออีกอย่างหนึ่งของการขายสินค้าออนไลน์  การทำกลยุทธ์ทางการตลาดโดยใช้คนดังนั่นเอง นอกเหนือจากการใช้วิธี Influencer Marketing แล้ว การขายสินค้าออนไลน์ยังขึ้นอยู่กับการลงคอนเทนต์ที่มีประสิทธิภาพเพื่อรอดูยอดขาย  ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ อย่างที่คิด

 

1.หาคนดังหรือผู้มีอิทธิพล ที่กลุ่มเป้าหมายเชื่อใจ

การเลือกคนดังและผู้มีอิทธิพลออนไลน์ มาโพสต์เกี่ยวกับสินค้า บริการหรือธุรกิจของคุณ ลูกค้าก็จะเปิดใจฟังมากว่าโฆษณาบนแพลตฟอร์มออนไลน์อย่างแบนเนอร์ เพราะเวลาสร้างแบรนด์ ความไว้ใจต้องมาก่อน หากเป็นคนดังพูด หรือถ่ายรูปคู่กับสินค้า ชาวเน็ตและสื่อสังคมออนไลน์จะมีการแนะนำบอกต่อ ซึ่งจะส่งผลทำให้แบรนด์ของคุณมีความน่าเชื่อ ถือ  ทำให้ลูกค้ามีความไว้ใจมากขึ้นถึง 89% มากกว่าตัวแบรนด์พูดเอง ทำให้การขายสินค้าออนไลน์มีผลลัพธ์ออกมาดี

 

2.ติดตามคนดัง คอยไลค์ และแชร์คอนเทนต์อยู่บ่อยๆ

ถ้าจะวัดความสำเร็จของแคมเปญในการขายสินค้าออนไลน์นั้น ทำให้ไม่สามารถดูแค่จำนวนคนติดตามคนดังบนโลก ออนไลน์อย่างเดียว และไม่ใช่ความคิดที่ถูกต้อง เพราะต่อให้มีแฟนเพจเยอะแค่ไหน หากไม่ยอมกดไลค์ ไม่มีคอมเมนต์ หรือไม่มีการแชร์เนื้อหาของคนดังคนนั้นเลย อาจทำให้แคมเปญของคุณประสบความสำเร็จยาก  เมื่อคุณต้องทำงาน ร่วมกับคนดังจะต้องตีโจทย์ให้แตกว่าจะทำคอนเทนต์ของคุณให้เกี่ยวข้องกับคนที่ติดตามได้อย่างไรบ้าง?

 

3.การทำคอนเทนต์ให้สร้างสรรค์จากคนดังออนไลน์

แม้คุณจะรู้จักสินค้า บริการและแบรนด์ของตัวเองดีแค่ไหน แต่อาจไม่มีทางรู้ว่าแฟนเพจมีนิสัยอย่างไรและชอบคอนเทนต์แบบไหนได้ดีกว่าคนดังออนไลน์แน่นอน ลองปล่อยให้ Influencer Marketing รับผิดชอบในการคิดคอนเซปท์ และทำคอนเทนต์ให้สร้างสรรค์ดูสิ เชื่อว่าการขายสินค้าออนไลน์จะต้องเพิ่มยอดขายแน่ๆ

 

  1. ถามหาความเห็นจากแบรนด์ที่เคยใช้บริการคนดังออนไลน์

ถ้าคุณมีคนดังออนไลน์ในใจที่อยากจะจ้างแล้ว ก่อนที่จะว่าจ้างคนดังเป็นส่วนหนึ่งของการขายสินค้าออนไลน์ ควรดูว่ามีแบรนด์ไหนที่เคยจ้างให้ทำคอนเทนต์ แล้วลองถามว่าคนดังคนนี้ทำงานด้วยง่ายหรือไม่?  ผลตอบรับดีตามคาดหรือไม่? การถามกับคนที่เคยใช้บริการมาแล้วยังทำให้เรารู้ราคาที่สมควรจะเจรจาต่อรองกับคนดังคนนั้นด้วย

 

5.ให้ Influencer Marketing  สร้างความสัมพันธ์กับแบรนด์

หากการใช้ Influencer Marketing จากคนดังเพื่อการขายสินค้าออนไลน์ที่ถูกจริตกับแบรนด์ จะทำให้สามารถสื่อความเป็นแบรนด์ของคุณได้อย่างชัดเจน ทำให้สามารถร่วมงานต่อไปได้อีก รวมทั้งการทำคอนเทนต์ให้โดนใจกลุ่มเป้าหมายให้ดียิ่งขึ้น บ่อยขึ้น และยังช่วยลดต้นทุนต่อโพสต์ด้วย นั่นจะทำให้ Influencer Marketing ของคุณได้ผลระยะยาว

 

การใช้ Influencer Marketing เป็นเพียงแค่ส่วนเสริมของการสร้างแบรนด์ และส่งเสริมการขายสินค้าออนไลน์เท่านั้น ควรคิดรอบคอบทุกครั้งเวลาเลือกใครมาเสริมแบรนด์ และดูคอนเทนต์ของคนๆ นั้นย้อนหลัง จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าควรให้เขาทำการตลาดหรือไม่

เทคนิคการขายสินค้าออนไลน์บน Facebook สู่นักขายเงินล้าน

e-commerce-3406613__340

การขายสินค้าออนไลน์ ผ่านทางเพจ เฟซบุ๊ค หากจะให้ได้ผลก็ต้องใช้วิธีโปรโมทแฟนเพจ เพื่อเพิ่มยอดขายให้พุ่งกระฉูด ซึ่งอาจเป็นการลงทุนในครั้งแรก ๆ ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่เปิดร้านเพื่อทำการขายสินค้าออนไลน์ เพราะการทำการตลาดแบบนี้จะช่วยให้ร้านค้าใหม่ ๆ  มีการเข้าถึงมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการติดตามและการซื้อสินค้านั่นเอง  ซึ่งการขายสินค้าออนไลน์ ที่ไม่ใช่แค่การค้าขายแบบขายสินค้าหน้าร้านหรือบนดินอีกต่อไป เพราะการขายสินค้าออนไลน์ที่แพร่ระบาดมายังโลกออนไลน์ ต่างก็ได้รับความนิยมมากขึ้น ทำให้ต่างก็มีทั้งผู้ขาย และผู้ซื้อมากขึ้นตามไปด้วย แต่จะทำอย่างไรให้การขายสินค้าออนไลน์ร้านของคุณมียอดขายพุ่งทะยานหลักล้านได้นะ

 

ข้อดีของการขายสินค้าออนไลน์

การลงทุนเพื่อใช้ช่องทางสื่อออนไลน์จากการขายสินค้าออนไลน์ บางครั้งอาจไม่ต้องลงทุนอะไรด้วยซ้ำ เพียงแค่อาศัยหลักการตลาดในเรื่องของกลไกการทำงานของสื่อออนไลน์ให้เป็น เพราะปัจจุบันมีการใช้อินเทอร์เน็ตแทบทุกหนแห่งทำให้การค้าขายมีการขยายตัวเข้ามาเพื่อใช้สื่อออนไลน์กันมากขึ้น  ไม่ว่าจะเป็น Facebook  , Twitter  ,Line  หรือ Instagram

โดยเฉพาะ Facebook ซึ่งจัดว่าเป็นสื่อออนไลน์ที่คนไทยนิยมใช้กันเป็นอย่างมาก และสามารถเข้าถึงได้ทั้งบนมือถือผ่าน แอพ ฯ และผ่านหน้าเว็บบน PC ทำให้ลูกค้าสามารถเห็นสินค้าจากการขายสินค้าออนไลน์ได้หลากหลายทาง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการตัดสินใจซื้อ

 

สร้างยอดขายจากการขายสินค้าออนไลน์บน Facebook ?

ปัจจุบันมีผู้ใช้งาน Facebook  มากขึ้น ซึ่งจะทำให้คุณได้มองเห็นโอกาสของการขายสินค้าออนไลน์ ซึ่งดูด้วยว่าคนใช้งาน Facebook  จะมีกลุ่มลูกค้าของคุณหรือไม่ นอกจากนี้การใช้ Facebook ยังมีการเปิดโอกาสให้กับบุคคลทั่วไปได้สร้างกลุ่มและแฟนเพจในการสนทนาร่วมกันอีกด้วย จุดสำคัญของการขายสินค้าออนไลน์บน Faebook  คือการโปรโมทสินค้าให้เป็นที่รู้จัก หรือบางคนอาจจะเน้นการขายไปด้วย ซึ่งก็มีผู้ที่ทำการขายสินค้าออนไลน์บน Facebook มากมายที่ประสบความสำเร็จจนส่งสินค้าแทบไม่ทันเลยทีเดียว  หากอยากประสบความสำเร็จเช่นพวกเขาเหล่านั้นก็ต้องเรียนรู้หลักการตลาดให้ได้ เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้า และการขายที่ต่อเนื่อง

 

การสร้างแฟนเพจเพื่อการขายสินค้าออนไลน์

การสร้างแฟนเพจ (Fan page) ขึ้นมา ก็เหมือนกับว่าได้สร้างเว็บส่วนตัวขึ้นมาเว็บหนึ่ง ซึ่งมีคุณเป็นผู้ควบคุมระบบต่างๆเอง เป็นการขายสินค้าออนไลน์ ที่สามารถโพสต์หรือลบข้อมูลต่าง ๆ ได้ด้วยตนเอง แม้ระบบที่ได้มาอาจไม่ยืดหยุ่นเท่ากับเว็บที่เขียนขึ้นเองก็ตาม แต่มันก็เป็นการดีที่คุณจะได้ทำการตลาดบนสื่อนี้ และทำให้เข้าถึงกลุ่มผู้ใช้ในสังคมมากยิ่งขึ้น  เริ่มต้นเพียงคุณต้องมีบัญชีกับทาง facebok  เพราะการสมัครแฟนเพจนั้นไม่ยาก เมื่อสมัครสมาชิกสำเร็จแล้วก็ไปจัดการหน้าแฟนเพจได้

 

การขายสินค้าออนไลน์ ด้วยการลงข้อมูลสินค้าและรายละเอียดผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ สามารถทำได้ทุกวัน หมั่นอัพข้อมูล อย่าใจร้อน การลงข้อมูลที่มากพอในแฟนเพจจะเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือได้ดี โดยอาจเป็นข้อมูลดีๆ หรือรูปภาพของผลิต ภัณฑ์และรายละเอียด  รวมทั้งข่าวสารต่างๆที่เกี่ยวข้องกับสินค้าและที่ขาดไม่ได้คือรีวิว ฯลฯ เหล่านี้ล้วนแล้วแต่ทำให้เกิดการกระตุ้นยอดขาย ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีต่อการขายสินค้าออนไลน์นั่นเอง

เทคนิคการขายของออนไลน์ให้กำไรเป๊ะ..แอนด์ ปัง !

online-shopping-1929002__340

อยากทราบกันหรือไม่ว่าลูกค้ามีความต้องการอะไรบ้าง  เมื่อเข้าสู่เว็บการขายของออนไลน์ เพราะก่อนที่จะเลือกซื้อสินค้าผ่านทางเว็บของคุณนั้น ลูกค้ามีความต้องการสินค้าเลยหรือไม่   ซึ่งอาจมีแม่ค้า พ่อค้าหลาย ๆ คนอาจกำลังเจอกับปัญหาโลกแตกที่ว่า ทำไมลูกค้าไม่ยอมซื้อของจากเว็บคุณซักที ซึ่งการขายของออนไลน์ในปัจจุบันนี้เชื่อเหอะว่า..ใครๆ ก็สามารถเป็นพ่อค้า แม่ค้าออนไลน์กันได้ง่ายๆ แถมไม่ต้องใช้วุฒิใดๆ ก็สามารถร่ำรวย มีเงินตั้งตัวได้ หากการขายของออนไลน์มีหลักและแนวทางการขายที่ดี

 

การขายของออนไลน์ให้มีลูกค้าประจำ   

การขายของออนไลน์ เพื่อให้มีลูกค้าเข้าร้านนั้น จะต้องมีการออกแบบเว็บที่ความสวยงาม  มีความรวดเร็วในการโหลดเว็บหรือข้อมูลภายในเว็บ  และการขายของออนไลน์จะต้องนำเสนอสินค้ารวมทั้งมีช่องทางการชำระเงินที่เข้าใจง่าย รวมทั้งการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้าด้วยว่า เว็บคุณสามารถส่งของได้ตามกำหนด และจะต้องมีสินค้าในสต๊อกอยู่จริง ไม่ใส่ข้อมูลเพื่อบิดเบือนความจริงหรือเปล่า??  และแน่นอนว่าเมื่อลูกค้าอยากจะใช้การชำระเงินผ่านระบบต่าง ๆ ทางอิน เทอร์เน็ต อย่างแรกเลยที่แม่ค้าที่ทำการขายของออนไลน์ต้องคำนึงถึงก็คือ จะต้องเปิดบัญชีธนาคารทุกบัญชี เพื่อสร้างความสะดวกสบายให้กับลูกค้าทุกคนที่ทำการซื้อสินค้าผ่าทางการขายของออนไลน์ เพราะแม้จะเสียค่าบริการในการโอนเงิน 25 บาท แต่ความรู้สึกเสียดายย่อมมีแน่นอน หากเทียบกับการโอนเงินแบบที่ไม่เสียค่าธรรมเนียมนั่นเอง

 

สร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้ากับ…การขายของออนไลน์

การขายของออนไลน์สามารถเพิ่มความสบายใจให้กับลูกค้าได้มากขึ้น โดยการทำให้เว็บของคุณมีระบบการแชทแบบตัวต่อตัว เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการติดต่อและมีการลงเบอร์โทร หรือ e-mail facebook Line  ให้ชัดเจนบนหน้าเว็บของคุณ เพื่อที่ลูกค้าจะได้รู้สึกสบายใจในการชำระเงิน เพราะจะทำให้สามารถติดต่อเจ้าของเว็บได้ง่ายในการขายของออนไลน์หรือหากสามารถเพิ่มการรับประกันสินค้าด้วยการรับประกันสินค้า ภายในระยะเวลาที่กำหนด หรือหากสินค้าเกิดการชำ รุด ก็จะต้องสามารถส่งกลับมาเปลี่ยนได้ ซึ่งเป็นการเพิ่มความประทับใจและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่การขายของออนไลน์จากเว็บของคุณขึ้นไปอีก

 

การขายของออนไลน์ เพื่อเปลี่ยนลูกค้าขาจร ให้เป็นลูกค้าประจำ

หลังจากการขายของออนไลน์ให้กับลูกค้าที่หลากหลาย ด้วยการขายสินค้าจนทำให้ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่นและชื่นชอบในสินค้าของคุณแล้ว  ควรจะทำให้ลูกค้าอยากกลับมารีวิวสินค้าของคุณให้มากที่สุด โดยเฉพาะการขายของออนไลน์ ที่คุณอาจจะลองจัดโปรโมชั่น แล้วให้คูปองแก่ลูกค้า หากรีวิวสินค้าให้คุณ หรืออาจจะมีส่วนลดในครั้งต่อไป รวมทั้งจะต้องทำให้ลูกค้าถ่ายรูปคู่กับสินค้าของคุณได้ ก็จะยิ่งเป็นผลดีขึ้นไปอีก การขายของออนไลน์แม้จะเริ่มมีลูกค้าอยู่ในมือของคุณบ้างแล้ว ทำไมเราไม่ใช้พวกเขาให้เป็นประโยชน์ล่ะ!

 

การขายของออนไลน์และการสร้างความเชื่อมั่นกับตัวลูกค้าไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะหากเราจับจุดได้เชื่อว่าเว็บของคุณจะขายของเพื่อเพิ่มยอดขายให้มากขึ้นแน่นอน

3 เทคนิคที่ต้องใส่ใจรายละเอียดก่อนการขาย

equipment-2892575__340

แม้จะยังไม่มีการขายเกิดขึ้น แต่ในช่วงขั้นตอนก่อนการขายก็ถือได้ว่ามีความสำคัญอย่างมาก เพราะหากมีการเริ่มต้นที่ดี สิ่งที่ตามมาก็จะดี ตามไปด้วย อีกทั้งยังสามารถสร้างความประทับใจในการซื้อขายได้  ซึ่งการขายจะต้องมีเทคนิคในการโน้มน้าวใจให้ผู้ซื้อด้วยวิธีการต่างๆ  ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสาร  หรือการโฆษณาเพื่อลงประกาศฟรีตามเว็บ ซึ่งเป็นช่องทางในการเพิ่มรายได้  การขายที่ดีจะต้องมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ผู้ซื้อ ซื้อสินค้าของคุณ และจะต้องทำการปิดการขายได้เร็ว ดีและตรงตามที่ต้องการ มีเทคนิคการขายดี ๆ ที่จะช่วยให้การขายของจากร้านของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

1.หาช่องทางการขายที่เหมาะสม

การเลือกช่องทางการขาย คือหนทางที่คุณจะต้องคิดเพื่อให้เกิดการกระจายสินค้าไปสู่ผู้บริโภค ซึ่งก่อนขายสินค้าทุกครั้ง ต้องถามตัวเองก่อนว่าคุณจะขายอะไร ผู้บริโภคเป็นใคร และจะใช้ช่องทางการขายแบบไหนดี??? การเลือกช่องทางการขายที่ถูกจะช่วยให้เราได้ลูกค้าที่ตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น  ปัจจุบันมีสื่ออินเทอร์เน็ตที่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของสินค้าแต่ละประเภท  นอกจากนี้การขายในอินเทอร์เน็ตยังสามารถโชว์รูปและรายละเอียด ทำให้ลูกค้ามีเวลาตัดสินใจได้เร็วขึ้น ทางกลับกันหากต้องการขายของบางอย่าง การขายในอินเทอร์เน็ตอาจไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดความไม่พอใจของลูกค้าแน่นอน

 

2.จัดโปรโมชั่นการขายให้ลูกค้ารู้สึกว่าคุ้มค่า

ปัจจุบันมีธุรกิจการขายเกิดขึ้นมากมาย โดยเฉพาะการขายของออนไลน์ ที่ผู้ขายจะต้องทำการบ้าน ด้วยการศึกษาข้อมูลก่อนที่จะเปิดร้านเพื่อทำการขาย อีกทั้งมีการวางแผนในการทำโฆษณาออนไลน์ เพื่อกระตุ้นการซื้อของผู้บริโภคให้ได้ ซึ่งจะทำให้สินค้าหรือบริการของคุณมีความน่าสนใจมากขึ้น การใช้เทคนิคดี ๆ ในการขายก็เป็นส่วนหนึ่งของการเพิ่มรายได้ให้กับเจ้าของกิจการ ซึ่งการจัดโปรโมชั่นเป็นหนึ่งในแผนการตลาด ที่อาจมีข้อเสนอพิเศษสำหรับการซื้อขาย ซึ่งหลังจากที่ได้ช่องทางการขายแล้ว ผู้ทำการขายอาจจะเริ่มจัดเตรียมโปรโมชั่น โดยการวางแผนให้ดีว่าจะทำโปรโมชั่นการขายในช่วงไหน ซึ่งความจริงแล้วการจัดโปร ฯ  สามารถทำได้ทุกเทศกาลไม่ว่าจะเป็น ฉลองเปิดร้านใหม่, วันปีใหม่, วันวาเลนไทน์,  หรือฉลองร้านครบรอบ…ปี

 

3.การขายต้องสร้างความน่าเชื่อถือ

การสร้างความน่าเชื่อถือสามารถทำได้โดยการโฆษณา การรีวิวของผู้ซื้อ เพื่อให้ลูกค้าคนอื่นรู้จักร้านคุณ  การสร้างความน่าเชื่อถือส่วนใหญ่จะเน้นไปที่การขายสินค้าที่มีคุณภาพ  ความสะดวก-รวดเร็วในการบริการ เพื่อให้ลูกค้าได้รับความพึงพอใจในการขาย ซึ่งจะส่งผลทำให้นำไปบอกต่อ ๆ กัน  นอกจากนี้อาจต้องใช้เทคนิคในการขาย โดยอาจขึ้นอยู่กับทักษะและการนำมาใช้ และสามารถนำมาใช้ในช่วงที่มีการขายได้ตลอดเวลา

 

ไม่ว่าจะเป็นการขายทางออนไลน์หรือหน้าร้าน ต่างก็มีเทคนิคที่ไม่ต่างกัน  โดยผู้ขายจะต้องให้ข้อมูล แนะนำในสิ่งที่ดี  การนำเสนอสินค้าที่เหมาะสมต่อกลุ่มเป้าหมาย และที่สำคัญ คือ ราคาต้องไม่แพง

3 กลวิธีการขาย ที่ผู้ขายใช้วิธีโน้มน้าวใจ ….ได้ผลจริงหรือ???

online-store-1272390__340

ปัจจุบันธุรกิจการขายของจากร้านต่างๆ เกิดขึ้นมากมายและยังถือได้ว่ามีคู่แข่งมากขึ้นเรื่อย ๆ  เรียกได้ว่าเป็นการแข่งขันทั้งในโลกออนไลน์หรือแม้แต่การเปิดหน้าร้าน นั่นเป็นเพราะการขายของถือเป็นอาชีพอิสระที่ผู้ขายสามารถกำหนดตัวเองว่าต้องการขายของอะไร ขายวันไหน ตอนไหน หรือขายที่ไหน ที่สำคัญคือการขายเป็นอาชีพที่เป็นนายตัวเองโดยไม่ต้องมีใครมาสั่งให้เสียเซลฟ์   ใครที่อยากจะทำการขายของให้ได้กำไรเยอะ ๆ ทำให้ตัวเองอยู่รอดและให้มีลูกไม่ว่าจะเปิดหน้าร้านหรือขายแบบออน ไลน์ ก็จะต้องหาวิธีให้อยู่เหนือคู่แข่งเสมอ…ว่าแต่มีวิธีไหนบ้างนะ??

 

ต้องมีเทคนิคการขายที่ดี

ซึ่งนอกจากจะเกี่ยวกับตัวสินค้า กลุ่มลูกค้าแล้ว สิ่งที่เป็นตัวช่วยสำคัญที่จะช่วยให้การขายประสบความสำเร็จนั่นคือ ผู้ขายจะต้องมีเทคนิคการขาย เพราะการที่จะทำให้สินค้าหรือบริการของคุณมีผู้ที่สนใจเห็นมากขึ้น จะต้องสามารถตอบโจทย์ให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าได้ดี โดยสามารถทำได้หลายทาง แต่การขายของก็ใช่ว่าจะประสบความสำเร็จทุกราย เพราะมีแม่ค้า พ่อค้าหลายรายที่ต้องขาดทุนย่อยยับ ในขณะที่บางรายก็สร้างรายได้จากการขายได้ดีกว่างานประจำหลายเท่า

 

การทำโฆษณาและทำการตลาด

เทคนิคการขายของที่ได้ผลอีกอย่างหนึ่งซึ่งเป็นทางเลือกของโลกออนไลน์ คือ กลวิธีที่ผู้ขายใช้การโน้มน้าวใจต่อผู้ซื้อด้วยวิธีการต่าง ๆ  ไม่ว่าจะเป็นด้านการสื่อสาร หรือการโฆษณา การลงประกาศฟรี บนโลกออนไลน์ซึ่งเป็นการเพิ่มช่องทางการขายและเป็นการเพิ่มยอดขายได้เป็นอย่างดี  โดยมีจุดมุ่งหมายคือให้ผู้ซื้อต้องการซื้อสินค้าหรือบริการ รวมทั้งการปิดการขายได้อย่างเร็ว  เพื่อช่วยให้การขายของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้นที่สำคัญสินค้าจะต้องดีและตรงตามที่ลูกค้าต้องการ

 

หาช่องทางการขายของที่เหมาะสม

ก่อนการขายของทุกครั้งลองถามตัวเองก่อนว่าคุณจะขายอะไร และมีกลุ่มเป้าหมายหรือผู้บริโภคเป็นใคร สำคัญที่สุดคือมีช่อง ทางการขายอย่างไร เพราะการเลือกช่องทางการขายที่ถูกและเหมาะสม จะช่วยให้คุณได้ลูกค้าที่ตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น  และหากมีการเริ่มต้นที่ดีสิ่งที่ตามมาก็จะดีด้วย  ถือเป็นสิ่งที่ต้องใส่ใจก่อนการซื้อขาย ในช่วงก่อนการขายของก็สำคัญอย่างมาก  โดยจะต้องสร้างความประทับใจในการขายให้ได้  ที่สำคัญคือการเลือกช่องทางการขายเพื่อที่จะทำให้เกิดการกระจายสินค้าไปสู่ผู้บริโภค

 

การสร้างความน่าเชื่อถือของการขายของออนไลน์ อาจมีการทำโฆษณาหรือ การรีวิวของผู้ซื้อ เพื่อทำให้ลูกค้าคนอื่นรู้จักร้านของคุณมากขึ้น การสร้างความน่าเชื่อถือ จะต้องเน้นไปที่การขายของหรือสินค้าที่มีคุณภาพ และความรวดเร็วในการบริการ สิ่งเหล่านี้ หากลูกค้าได้รับความพึงพอใจก็สามารถนำไปบอกต่ออย่างแน่นอน

หลักวิธีการขายของออนไลน์….ขายอย่างไรให้ ปัง!

social-1206610__340

ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่ายังมีข้อเสียส่วนใหญ่ที่ทำให้ลูกค้าไม่อยากซื้อของทางอินเทอร์เน็ต นั่นอาจเป็นเพราะลูกค้าไม่สามารถลองสินค้าอย่างการลองสัมผัส หรือการลองสวมใส่ ทำให้จุดนี้กลายเป็นสิ่งที่ทำให้ลูกค้าเกิดความกังวลต่อตัวสินค้าอย่างมาก แม้แต่ขนาดของสินค้าที่ยังคอยกังวลว่าจะมีขนาดที่ใหญ่หรือเล็กกว่าในรูปไหม? หรือซื้อมาแล้วจะใส่ได้หรือไม่? แม่ค้าที่ทำการขายของหลายคนอาจกำลังเจอกับปัญหาโลกแตกที่ว่า ทำไมลูกค้าไม่ยอมซื้อของจากเว็บคุณ บางคนก็ตั้งข้อสงสัยกับตัวเองว่า การขายของออนไลน์ของคุณนั้นเกิดข้อผิดพลาดอะไรกันแน่? มาเจาะลึกกันดูว่า ลูกค้ามีความต้องการอะไรจากการขายบ้าง ก่อนที่จะเลือกซื้อสินค้าผ่านทางเว็บของคุณ

 

สิ่งที่ลูกค้าอยากได้จากการขายเมื่อเข้าเว็บครั้งแรก

การขายของจะไม่มียอดเพิ่มขึ้นแน่ หากเจ้าของร้านออกแบบเว็บที่ห่วยและไม่มีความสวยงาม เพราะลูกค้าทุกคนก็คาดหวังว่าการขายของออนไลน์จากเว็บไซต์จะช่วยให้เลือกสินค้าได้ง่ายขึ้น นอกเหนือจากความสะดวกที่ไม่ต้องเดินทางนั่นเอง ซึ่งการเปิดร้านหรือการขายของออนไลน์นั้น จะต้องทำให้เว็บเข้าใจง่าย ที่สำคัญคือต้องมีความเร็วในการโหลดตัวเว็บ หากคุณกำลังเปิดเว็บหรือเพจเพื่อทำการขายของออนไลน์อยู่ ลองกลับไปเช็คกันดูว่า มีข้อไหนที่เราตกหล่นไปไหม อีกทั้งยังรวมไปถึงการออกแบบตัวเว็บ ให้เข้ากับหน้าจอมือถืออีกด้วย เพราะยุคนี้ลูกค้าส่วนใหญ่ใช้ smartphone ในการเลือกซื้อสินค้ากันเป็นจำนวนมาก

 

การสร้างความประทับใจครั้งแรก

เชื่อว่าลูกค้าหลาย ๆ คน อาจจะต้องเคยเจอเว็บที่เมื่อเปิดเข้าไปครั้งแรกแล้ว ถึงกับปิดแทบไม่ทันเลยทีเดียว!  และไม่คิดว่าจะเป็นการขายของออนไลน์ที่แย่ขนาดนั้น เพราะด้วยความที่มันเห็นแล้วรู้สึกว่าใช้งานยาก ไม่สวยถูกใจ หรือการจัดร้านค้าในเว็บดูไม่ได้เลย รกไปหมดไม่เป็นหมวดหมู่ ซึ่งไม่ว่าใครก็อยากจะเห็นเว็บที่สวยงามถูกใจเช่นกัน! แม้แต่การขายของออนไลน์ ลูกค้าเองก็อาจเกิดความไม่ประทับใจในครั้งแรกที่เข้าเว็บ อาจทำให้ลูกค้าคนนั้น มีโอกาสที่จะกลับมาใช้เว็บอีกครั้งน้อยมาก

 

การบอกต่อในโลกออนไลน์

แม้ว่าเว็บของคุณจะมีความสวยงามและมีความน่าใช้ขนาดไหน ลูกค้าจะรู้ได้อย่างไรว่าการขายสินค้าของคุณดีจริงหรือไม่ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่เลือกที่จะซื้อสินค้าโดยดูจากคนใกล้ตัวไม่ว่าจะเป็นเพื่อนหรือญาติสนิท รวมไปถึงการเลือกที่จะเชื่อการรีวิวบนโลกออนไลน์ จากช่องทางสื่อต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Pantip มากกว่าที่จะเชื่อการรีวิวจากเว็บการขายของเจ้าของสินค้าโดยตรง  ซึ่งลูกค้ายังใช้การรีวิวเป็นตัวเปรียบเทียบความเหมือนของตัวสินค้า ที่แต่ละเว็บได้นำเสนอไว้อีกด้วย

 

นอกจากนี้การชำระเงินของลูกค้า ต่อการขายของออนไลน์นั้นจะต้องสามารถติดต่อเจ้าของเว็บได้ง่าย อาจมีการเพิ่มนโยบายรับประกันสินค้าหรือการรับประกัน 15 วัน หากสินค้าชำรุด สามารถเปลี่ยนได้ ซึ่งจะยิ่งเพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้าขึ้นไปอีก