เรื่องทั้งหมดโดย worraphon

มาเรียนรู้พฤติกรรมของผู้ซื้อของออนไลน์..ก่อนจะตัดสินใจซื้อดีกว่า!!

seo-592740__340

คนที่จะขายของออนไลน์ลองนำเหตุผลที่คน ซื้อของออนไลน์ ไปปรับใช้ในการค้า การขายก็จะทำให้ยอดขายคุณสามารถงอกเงยขึ้นมาได้เช่นกัน บางคนขายของมาตั้งนาน เคยไหมที่จะส่งของให้ลูกค้าฟรี แบบไม่ต้องเสียอะไรเพิ่ม หรือหากขายของราคาของถูกลง คิดว่าลูกค้าจะมีโอกาสซื้อเพิ่มขึ้นแค่ไหน??  หรือแม้แต่ทำราคาให้ถูกกว่าที่อื่นแต่มีการเพิ่มค่าส่ง ก็อาจจะเป็นเหตุให้ลูกค้าสามารถซื้อของออนไลน์มากขึ้นก็ได้ ซึ่งการขายของเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ เพราะแบบนี้ เราจึงต้องมาทำความเข้าใจตัวพฤติกรรมของลูกค้าในการ ซื้อของออนไลน์ กัน  เมื่อเข้าใจจะได้รู้วิธีในการน้าวโน้มใจให้คนมาซื้อของออนไลน์กันมากขึ้น มาทำความเข้าใจกระบวนการที่จะทำให้ลูกค้าตัดสินใจในการซื้อกันก่อน  ซึ่งจะทำให้การซื้อของออนไลน์มีความง่ายขึ้นมากเลยทีเดียว

 

สิ่งที่เกิดขึ้นก่อนลูกค้าตัดสินใจซื้อของออนไลน์

ลูกค้าที่จะซื้อของออนไลน์ ส่วนใหญ่มักจะทำการดูข้อมูลในบนเว็บไซต์ต่าง ๆ ก่อนทำการตัดสินใจในการซื้อของแต่ละชิ้น ผลวิจัยบอกว่า พวกลูกค้ามักจะตรวจสอบจากแหล่งข้อมูลถึง 10 แหล่ง ก่อนที่จะทำการตัดสินใจซื้อของออนไลน์สักชิ้นโดยค้นหาจากแหล่งข้อมูลจาก บทความ รีวิว ยูทูป  กูเกิล  หรือ Facebook

 

ช่วงเวลาแรกที่เห็นสินค้า 

มันคือความรู้สึกแรกที่ลูกค้าได้เห็นสินค้า หากผู้ขายทำเพจ เว็บไซต์ ไอจี  เฟสบุ๊ค  หรือช่องทางการจำหน่ายอื่น ๆ ออกมาได้เริด สวยงาม น่าอ่าน ตรงนี้ถือว่ามีชัยมากๆ  การสร้างความประทับใจแบบสุดๆ เมื่อได้พบกับสินค้าครั้งแรกก่อนจัดสินใจซื้อของออนไลน์นั้น ผู้ขายจะต้องสร้างความรู้สึก Wow ให้กับสินค้าหรือบริการให้ได้ ซึ่งจะทำให้ลูกค้าเกิดจงรักพรรคดีกับแบรนด์และสินค้าคุณมากขึ้น

 

ช่วงหลังซื้อสินค้า 

หลักจากที่มีการซื้อของออนไลน์ไปแล้ว สิ่งที่พวกเขาสนใจต่อมาคือ เมื่อเปิดกล่องแล้วก็จะต้องร้องว้าวรอบสอง ว่าได้ของตรงตามที่สั่งไป รวมทั้งบริการหลังการขาย ว่าเป็นอย่างที่ร้านค้าได้ให้สัญญากับพวกเขาไว้หรอกไม่ และการส่งข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ให้พวกเขาก็เป็นสิ่งที่ผู้ขายควรทำ

 

ช่วงเวลาบอกต่อ 

เมื่อทุกอย่างที่กล่าวมาดีหมด ลูกค้าก็จะทำการบอกต่อกันเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการซื้อของออนไลน์ ที่ได้สินค้าดี ราคาคุณภาพ ส่งตรงเวลา รวมทั้งบริการหลังการขาย อาจจะไปเขียนรีวิวให้คนอื่นเข้ามาอ่าน ซึ่งสิ่งสำคัญคือหากมีการเอาข้อมูลเหล่านั้นมาแชร์ต่อ  ก็จะก่อให้เกิดการวนลูปของ Moment Of Truth

 

การบอกต่อเป็นสิ่งที่ร้านค้าออนไลน์หรือทุกธุรกิจต้องการ การที่ลูกค้าไปพูดถึงคุณ โดยที่คุณไม่ต้องทำอะไร เมื่อมีการรีวิวหรือการแชร์ไปมากเข้าๆ ก็เกิดยอดขายกลับมาหาร้านของคุณ ซึ่งถือว่าเป็นการได้ประโยชน์ที่ดีที่สุด

เรียนรู้ 3 หลักการทำการตลาดออนไลน์บน IG

shopping-cart-728430__340

เพราะมีโอกาสมากมายที่จะเปลี่ยนแปลงสถานะตัวเองจากพนักงานปกติให้กลายเป็นเจ้าของกิจการ  หลายคนเห็นช่องทางการสร้างรายได้ในโลกออนไลน์กันมากขึ้น  และเมื่อเห็นโอกาสแล้วก็ต้องพร้อมที่จะลองเสี่ยง สิ่งที่สำคัญของการขายของอนไลน์คือ การศึกษาหาความรู้การทำการตลาดออนไลน์ ที่อาจมาจากหนังสือ เข้าคอร์สสัมมนา ฯลฯ ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าสนใจ  วิธีการทำการตลาดออนไลน์ให้ร้านขายสินค้าของคุณมียอดขายเพิ่มขึ้นนั้นต้องอาศัยองค์ประกอบหลายอย่าง แม้แต่การเรียนรู้การทำการตลาดออนไลน์ ที่พ่อค้า แม่ค้ามือใหม่เองก็อยากจะทำการศึกษาอีกมาก ซึ่งในปัจจุบันนอกจากสื่ออื่น ๆ หรือช่องทางการขายอื่น ๆ ที่น่าสนใจแล้ว การทำการตลาดออนไลน์เพื่อขายของใน IG ก็ยังคงเป็นกระแสการขายของยอดฮิตไม่แพ้เฟสบุ๊ค เช่นกัน

 

เทรนด์ขายของใน IG  

ข้อสังเกตที่น่าสนใจของการขายของใน IG หลาย ๆ อย่างคือ มีร้านค้าที่ขายดี และอยู่มานาน  มีแนวโน้มที่จะเติบโตใน IG ซึ่งจะเห็นข้อแตกต่างกันอยู่บ้างระหว่างการ ช้อปผ่านทางหน้าเว็บไซต์ หรืแฟนเพจ รูปแบบการแสดงผลและ Filter ของ IG  เหมาะแก่การสื่อความรู้สึกต่างๆด้วยอารมณ์ของภาพมากกว่า ที่จะเขียนบรรยายยาวๆ  หากจะให้ทำการการตลาดออนไลน์ จะต้องวิเคราะห์จากข้อมูลทางสถิติรวมถึงฟังก์ชั่นของตัว IG  เมื่อคุณต้องการขายของใน IG สิ่งที่ควรคำนึงถึงในการเตรียมการแบบกว้างๆ คือ

 

ความสวยงามของภาพ

หากรักจะลองขายของใน IG  การถ่ายทอดความสวยงามของสินค้า แน่นอนว่าจะต้องใช้ภาพถ่ายที่ดีและสวยงาม ชัดเจนอีกทั้งจะต้องเป็นเรื่องที่ต้องโฟกัสมาเป็นอันดับ 1  แนวทางการทำการตลาดออนไลน์ อาจจะต้องศึกษาให้ละเอียดถึงข้อจำกัดความของคำว่าความสวยงามใน IG   จะไม่ใช่แค่เน้นว่ารูปชัดเหมือนการลงรูปสินค้าในเว็บไซต์แต่เพียงอย่างเดียว อย่าลืมว่าถึงมันจะเป็นการขายสินค้าเหมือนกัน แต่ก็เป็นการขายคนละ Platform กัน  ในฐานะเจ้าของร้านคุณต้องตีโจทย์ให้แตกว่า แต่ละ Platform  เราควรทำการตลาดออนไลน์ด้วยการนำเสนอ Display สินค้าอย่างไร จึงจะดึงความสนใจของลูกค้าได้

 

ข้อสังเกต

รูปภาพของสินค้าที่ได้รับความนิยมมักจะเป็นที่ดึงดูด บางรูปอาจเป็นรูปของสินค้าที่แฝงไปด้วยไลฟ์สไตล์ของกลุ่มผู้คนและเป้าหมายของลูกค้าเป็นหลัก  ซึ่งรูปที่ได้รับความนิยมส่วนมากจะพลิกผันไปตามกระแสค่านิยมของผู้ใช้ IG  ผู้ใช้ IGส่วนมากอายุ 18-29 ปี และเป็นผู้หญิง   อย่างตอนนี้จะเป็นแนว Slow life ก็ต้องใช้ความคิดและวางแผนการทำการตลาดออนไลน์ กันว่า สินค้าแบบไหนจะเหมาะกับกระแสแบบนี้ และนำเสนอออกมาทำนองไหนเพื่อสื่อให้เกิดความสร้างสรรค์โดนใจ

 

หนึ่งในการวางแผนการตลาดออนไลน์ ก่อนขายสินค้าในไอจี จะต้องตัดสินใจเลือกดูรูปของร้านใดร้านหนึ่งใน IG ว่ามีสินค้าที่คุณสนใจหรือเปล่า หรือจะกด Follow ดีไหม  การตัดสินใจประเภทนี้เกิดขึ้นเมื่อคุณกดเข้ามาสู่หน้า Home ของแต่ละร้านค้าใน IG ซึ่งสังเกตได้ว่าร้านค้าใน IG ที่ได้รับความนิยม ล้วนแล้วแต่มีหน้า Home ที่ดูสวยงาม และร้อยเรียง Mood and Tone ของแต่ละภาพรวมกันออกมาได้เป็นแนวเดียวกัน

การขายของออนไลน์วิธีไหนดี..??? จะช่วยเพิ่มยอดขายได้อย่างรวดเร็ว

shopping-4000414__340

เพราะเหตุใดที่ทำให้คนบางคนยอมควักกระเป๋าสตางค์จ่ายเงินเพื่อ ซื้อสินค้าหรือบริการ และเพราะเหตุใดที่ทำให้คนบางคนเดินออกจากร้านไปแบบไม่มีวันกลับมา ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับความรู้สึกที่เขามีต่อร้านค้าที่คุณขายของออนไลน์นั่นเองซึ่งคุณเองก็สามารถเพิ่มยอดขายให้ธุรกิจของคุณได้ ด้วยหลากหลายวิธี  ซึ่งสิ่งสำคัญประการแรกที่จะทำให้การขายของออนไลน์ เป็นที่รู้จักและขายได้ดีคือต้องเข้าใจว่าลูกค้ามีพฤติกรรมในการซื้ออย่างไร และ ทราบหรือไม่ว่าการจะตัดสินใจซื้ออะไรสักอย่างนั้นรูปลักษณ์ของสินค้า แพ็คเก้จจิ้ง  ชื่อแบรนด์  และความน่าเชื่อถือ มีส่วนสำคัญมากในการ

ตัดสินใจต่อร้านที่ขายของออนไลน์

 

การบริการที่ดี

การให้บริการที่ดีของร้านที่ขายของออนไลน์  จะช่วยเพิ่มยอดขายได้เป็นอย่างดีการให้ความช่วยเหลือหรือให้คำแนะนำลูกค้าจะมีส่วนช่วยในการตัดสินใจได้เร็วขึ้นเพราะสามารถตัดตัวเลือกที่ไม่ต้องการอออกไปได้ หากคุณเป็นลูกค้าคุณอยากได้บริการอะไรจากร้านที่ขายของออนไลน์ ซึ่งแม้จะเป็นผู้ขายแต่ก็ต้องใส่ใจผู้ซื้อลองปรับกลยุทธ์ในการให้บริการ อาจส่งผลทำให้มีลูกค้าและยอดขายเพิ่มขึ้น

 

จัดโปรโมชั่นสินค้า

ซึ่งปัจจุบันมีการหันมาใช้กลยุทธ์ลด แลก แจก แถม เพื่อเป็นการเสริมทัพของการขายของออนไลน์ ที่เชื่อว่าลูกค้าส่วนใหญ่มีความโปรดปราน ซึ่งแน่นอนว่ามันยังใช้ได้ผลเสมอ แต่ส่วนหนึ่งของการขายของออนไลน์ ให้ประสบความสำเร็จนั้น ก็ต้องขึ้นอยู่กับผู้ที่มีกำลังซื้ออีกด้วย

 

การให้ความรู้แก่ลูกค้า

ผู้บริโภคฉลาด ๆ สมัยนี้มีเยอะ  พวกเขาจะเปรียบเทียบคุณภาพกับราคาของสินค้าจากร้านที่ขายของออนไลน์ การจะทำให้สินค้าหรือบริการของคุณสามารถดึงดูดใจพวกเขาได้ คุณควรจะมีแหล่งข้อมูลของสินค้าที่สามารถอ่านได้สะดวก ไม่ว่าจะเป็น คลิปวีดีโอ เว็บไซท์ คอนเท้นต์  หรือจัดคอร์สฝึกอบรมต่าง ๆ ให้ลูกค้า เหล่านี้ต่างเป็นข้อมูลดีๆ ที่จะถ่ายทอดความเป็นร้านขายของออนไลน์ได้อย่างชัดเจน

 

มีจรรยาบรรณ

ผู้บริโภคมักจะไม่ซื้อสินค้าจากร้านขายของออนไลน์ หากภาพพจน์ของสินค้าหรือแบรนด์ไม่ดี  คุณควรจะแสดงให้เห็นว่าคุณบริหารธุรกิจแบบมีจรรยาบรรณ ไม่ว่าจะเป็นการรับประกันคุณภาพของสินค้า การคืนเงินหากไม่พอใจ หรือการให้เงินบริจาคกับการกุศลต่าง ๆ

 

สร้างบรรยากาศ

การทำร้านในเว็บไซต แฟนเพจ เฟสบุ๊ค หรือไลน์ อินสตาแกรม ทวิสเตอร์ ฯลฯ ให้ดูเป็นระเบียบ จัดวางรูปและเนื้อหาให้ชัดเจน   เพราะหากลูกค้าใช้เวลาอยู่ในร้านนานมากเท่าใด พวกเค้าก็มีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้ามากขึ้นเท่านั้น การลงทุนใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่อย่างสื่อภาพและเสียง อาจมีส่วนช่วยให้ลูกค้าใช้เวลาหาข้อมูลและเลือกสินค้าในร้านขายของออนไลน์ได้นานขึ้น

สร้างแบรนด์สินค้าให้ฮิตติดตลาดต้องทำอย่างไร ?

online-3412498__340

การสร้างแบรนด์ (Brand) เป็นเรื่องของความรู้สึกที่เกิดขึ้นจากประสบการณ์ของผู้บริโภคที่เห็นหรือมีการสัมผัส สินค้าหรือผลิตภัณฑ์นั้น ๆ จนเกิดความชอบหรือไม่ชอบตามมา  ทำให้การสร้างแบรนด์ขึ้นมาจึงไม่ใช่แค่เพียงสร้างโลโก้ ชื่อสินค้า หรือแพ็คเกจจิ้งเพียงอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น หากแต่ผู้ประกอบการต้องสร้างความรู้สึกผูกพันระหว่าง แบรนด์กับผู้บริโภคให้ได้อีกด้วย สิ่งนี้จะส่งผลไปยังความเชื่อมั่นของผู้บริโภค และทำให้แบรนด์อยู่ได้ในระยะยาว หมายถึงความมั่นคงและการเติบโตของธุรกิจนั่นเอง

 

จงมีความศรัทธาในแบรนด์ของคุณ

การสร้างแบรนด์ของคุณจะเป็นเครื่องมือที่ทำให้ธุรกิจมีความโดนเด่นกว่าคู่แข่ง  เพราะลูกค้าจะสามารถจดจำและรับรู้เกี่ยวกับธุรกิจของคุณได้ด้วยการาสร้างแบรนด์ ซึ่งหากคุณมีแบรนด์ที่แข่งแรงจะเป็นกลยุทธ์ที่จะทำให้เกิดความสำเร็จในระยะยาว  โดยแบรนด์จะสามารถบ่งบอกลักษณะของธุรกิจได้เป็นอย่างดี   ควรรักษาเอกลักษณ์ไว้ให้ดีเพื่อการพัฒนาธุรกิจของคุณในอนาคต

 

จุดเริ่มต้นของการสร้างแบรนด์

เริ่มแรกต้องรู้ก่อนว่า คุณกำลังทำธุรกิจอะไรอยู่ เริ่มต้นธุรกิจนี้เพราะอะไร เพื่อหาจุดยืนของตัวเอง ขั้นตอนนี้เหมือนไม่มีอะไร แต่ความจริงแล้วมีความสำคัญมาก เพราะการที่จะทำให้องค์กรมีชื่อเสียง ก็คล้ายกับการทำให้คนมีชื่อเสียง ฉะนั้น การหาจุดยืนของตัวเอง ก็เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถคาดหวังสิ่งต่าง ๆ   เช่น การทำให้ผู้บริโภครับรู้ว่า ถ้าเขาบริโภคสินค้าที่อยู่ภายใต้แบรนด์ของเรา เขาจะได้รับประโยชน์หรือความคุ้มครองอย่างไรบ้าง ซึ่งจุดนี้ต้องแน่ใจว่าแบรนด์ของคุณทำได้จริงๆ ไม่เช่นนั้นก็จะกลายเป็นเพียงแค่คำโฆษณาชวนเชื่อซึ่งมันไม่ใช่การสร้างแบรนด์อย่างแน่นอน

 

มีความชัดเจนในแบรนด์

การสร้างแบรนด์ให้ปัง จะต้องสร้างความเป็นตัวเองลงไปในแบรนด ไม่ว่าจะเป็น มีความสุภาพ รักษาคำพูด ฯลฯ ซึ่งก็ต้องทำให้ลูกค้าเห็นอย่างสม่ำเสมอ สิ่งนี้จะกลายเป็นความผูกพันและสร้างความรู้สึกที่ดีในระยะยาวกับผู้บริโภค เพราะจะทำให้ผู้บริโภคได้จดจำและรับรู้แบรนด์ของคุณ ซึ่งหัวใจสำคัญของการสร้างแบรนด์จึงอยู่ที่การดึงจุดเด่นและตัวตนที่แท้จริงออกมาสร้างแบรนด์ให้ได้

 

การสร้างแบรนด์ที่แข็งแรงจะทำให้ธุรกิจของคุณสามารถดึงดูดความสนใจจากลูกค้าและผู้ร่วมลงทุนได้เป็นอย่างดี โดย เฉพาะการสร้างแบรนด์ให้มีความเกี่ยวโยงกับสินค้าและบริการ จะทำให้ลูกค้ามีความต้องการตัวสินค้าหรือบริการของคุณอย่างต่อเนื่อง  ซึ่งการมีแบรนด์ที่แข็งแรงจะสามารถช่วยประคองธุรกิจให้อยู่รอดและจะช่วยประคับประคองธุรกิจของคุณให้ผ่านช่วงวิกฤตนั้นไปได้

สร้างแบรนด์แล้วได้อะไร??? ช่วยเพิ่มยอดขายได้จริงหรือ??

business-3175110__340

ทำไม ใคร.. ๆ  ต่างก็พูดถึงกันแต่เรื่องสร้างแบรนด์ หรือว่าตอนนี้เป็นช่วง แบรนด์ฟีเว่อร์ แต่จะว่าไปก็ไม่น่าใชอาจจะเป็นเพราะภาวะช่วงนี้ เศรษฐกิจแบบนี้  จึงส่งผลให้ผู้ประกอบการเกิดการตื่นตัวในการสร้างแบรนด์มากยิ่งขึ้น เพื่อที่ว่าธุรกิจจะได้เดินต่อไปได้ไม่สะดุด  ซึ่งผู้ประกอบการหลาย ๆ คนอาจจะคิดว่า… ก็ในเมื่อเปิดธุรกิจมานานทำไมที่ผ่านมาไม่เห็นจำเป็นต้องมีการสร้างแบรนด์ก็อยู่ได้ ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย?? ลองหันมาคิดทบทวน แล้วลองตรวจดูอาการของธุรกิจตัวเองกันบ้าง ว่าทำไมต้องสร้างแบรนด์ ??

 

ทำไมต้องสร้างแบรนด์??

การสร้างแบรนด์ ให้ปัง!!! ถือเป็นความจำเป็นที่ผู้ประกอบการ SMEs อย่างมาก เพราะในยุคของโลกแห่งการแข่งขันสมัยนี้ เรียกได้ว่ามีความจำเป็นจะต้องให้ความสำคัญ เนื่องจากแบรนด์จัดเป็นอาวุธชิ้นสำคัญที่จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มและช่วยเพิ่มยอดขาย  ซึ่งนั่นก็หมายความว่าผลกำไรและความมั่นคงทางธุรกิจก็จะตามมา แม้ว่าเรื่องของการสร้างแบรนด์จะเป็นเรื่องที่นักการตลาดกล่าวถึงและอธิบายกันมาเป็นเวลานาน  หากแต่ก็ยังมีผู้ประกอบการ SMEs จำนวนไม่น้อยที่ยังไม่ทราบถึงความสำคัญของการสร้างแบรนด์  หรือวิธีการสร้างแบรนด์อย่างแท้จริง

 

ความแตกต่างของการสร้างแบรนด์

เป็นการสร้างความเข้าใจในเรื่องของการสร้างแบรนด์ ก่อนที่จะกล่าวถึงความสำคัญของการสร้างแบรนด์ ผู้ประกอบการ SMEs จะต้องทำความเข้าใจในความหมายของคำว่าแบรนด์เสียก่อน  ซึ่งเจ้าของกิจการ SMEs โดยส่วนใหญ่มีความเข้า ใจว่า แบรนด์ คืออะไร ??? แบรนด์คือการมีชื่อเพราะๆ มีโลโก้สวยๆ แค่นั้นหรือ??  ซึ่งแท้ที่จริงแล้วสิ่งที่ผู้ประกอบการเข้าใจนั้น ความหมายก็คือ “ เครื่องหมายการค้า”  ซึ่งเครื่องหมายการค้ากับแบรนด์นั้นแตกต่างกันอย่างมาก

 

การสร้างแบรนด์ คืออะไร??

การสร้างแบรนด์ คือ ทุกอย่างที่เป็นองค์ประกอบสำคัญอันจะทำให้สินค้ามีตัวตนขึ้นมา  อย่างเช่น  นมนึ่งขวดก็จะประกอบด้วยยี่ห้อ แพ็กเก็คจิ้ง  และสโลแกน รวมทั้งสีสันต่างๆ และกลิ่นซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์  เห็นได้ว่าแบรนด์ คือทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบตัว โดยเฉพาะธุรกิจที่ผู้บริโภคจะตัดสินใจยอมเสียเงินมาซื้อ เพื่อได้ประสบการณ์นั้นๆ ซึ่งการสร้างแบรนด์เป็นองค์ประกอบที่ทำให้เกิดความรู้สึกของผู้บริโภค ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆในธุรกิจ เพราะแบรนด์เป็นตัวสร้างประสบการณ์  ที่ดี ที่น่าจดจำ ลองคิดดูว่า??? ทำไม??? ผู้บริโภคถึงติดยี่ห้อนั้นมากกว่ายี่ห้อนี้  ?? และทำไมต้องดื่มน้ำอัดลมแบรนด์หนึ่งมากกว่าอีกแบรนด์หนึ่ง  สุดท้ายแล้วก็กลับมาที่ประสบการณ์  ซึ่งเป็นบันไดขั้นสุดท้ายที่ผู้บริโภคจะได้ ซึ่งเป็นสิ่งหนึ่งที่ผู้ประกอบการ SMEs มองข้าม

 

ผู้ประกอบการส่วนใหญ่มักมองเพียงแค่ว่าสินค้าของตนดีมีคุณภาพ ราคาถูก จึงไม่สนใจเรื่องการสร้างแบรนด์เพราะคิดว่าอย่างไรคนก็ต้องมาซื้อ  พวกเขาอาจลืมไปว่ากระบวนการสร้างแบรนด์  มีหลายขั้นตอน ซึ่งขั้นตอนเหล่านั้นเป็นที่มาของประสบการณ์ที่ผู้บริโภคอยากได้จากสินค้าของผู้ประกอบการนั่นเอง

การสร้างแบรนด์??? สำคัญอย่างไร?? ทำไมต้องสร้างแบรนด์

search-engine-optimization-4111000__340

ในปัจจุบัน ธุรกิจต่างๆนั้นมีอัตราการแข่งขันที่สูงขึ้น อีกทั้งในวงการค้าขายเองก็มีแบรนด์ที่แปลกใหม่ไม่ซ้ำใครผุดขึ้นมามากมาย สิ่งที่สำคัญที่จะทำให้ธุรกิจของคุณอยู่เหนือคู่แข่งคนอื่น ๆ ให้ได้ นั่นก็คือ คุณต้องสามารถสร้างแบรนด์ของคุณให้ได้เหมือนแบรนด์เป็นสินค้าหรือบริการอย่างหนึ่ง เพราะมันขึ้นอยู่กับว่าการสร้างแบรนด์ของคุณ จะตั้งเป้าไปยังกลุ่มใดและกลุ่มลูกค้าของคุณต้องสามารถบอกได้ว่าแนวคิดของการสร้างแบรนด์ของคุณนั้นเป็นเรื่องใด  ซึ่งจะส่งผลทำให้ลูกค้าสามารถจดจำคุณสินค้าและข้อเสนอของแบรนด์คุณได้  การสร้างแบรนด์นั้นมีความสำคัญต่อการทำธุรกิจเป็นอย่างมาก  ซึ่งได้กลายเป็นสิ่งที่ผู้บริหารมากมายมักจะคิดค้นและทำการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อให้แบรนด์สินค้าเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคมากที่สุด   มาดู  3 เหตุผลในการสร้างแบรนด์กันดีกว่า

 

1.ขยายเครือข่าย

การขยายเครือข่ายจะนำธุรกิจของคุณไปสู่ความสำเร็จ และยังสามารถพาคุณไปในมุมใหม่ ๆ หรือโอกาสใหม่ ๆ ที่ ซึ่งมีความสำคัญต่อการทำธุรกิจเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากคุณจะสร้างแบรนด์เป็นของตัวเองให้เป็นที่รู้จักของกลุ่มผู้บริโภคแล้ว ยังมีบริษัทต่าง ๆ  ที่อาจจะมีความสนใจในธุรกิจของคุณและอยากจะทำงานร่วมด้วยมากขึ้น  เพราะเมื่อมีการสร้างแบรนด์ของคุณให้แข็งแรง ตัวแบรนด์จะทำหน้าที่ดึงดูดคนที่มีความคิดคล้ายกับคุณมาร่วมพัฒนาแบรนด์ โดยให้ข้อมูลดีๆกับคุณ โดยเฉพาะในเครือข่ายธุรกิจนั้น คุณควรเป็นผู้ให้เพื่อได้การตอบรับกลับมา หรือการช่วยผู้อื่นเพื่อให้ได้รับความช่วยเหลือกลับมานั่นเอง

 

2.คว้าโอกาส

เมื่อคุณได้ขยายเครือข่ายจากการสร้างแบรนด์ของคุณออกไป และได้มีชื่อเสียงบนโลกออนไลน์แล้ว นอกจากการที่คุณจะได้คนที่มีความคิดคล้ายกับคุณมาร่วมทำงานแล้ว ยังจะได้รับโอกาสทางธุรกิจ หรือ ผู้ร่วมลงทุนในอนาคต ทำให้กลายเป็นโอกาสของคุณในการเริ่มสิ่งใหม่ ๆ หรือ ได้รับการแนะนำลูกค้าเพิ่มก็เป็นได้ เพราะหากมีการสร้างแบรนด์ที่แข็งแรงจะนำคุณไปสู่ความสำเร็จได้ดี และสิ่งนี้จะเป็นสิ่งจะสามารถเชิดหน้าชูตาธุรกิจของคุณได้

 

3.สร้างความเชื่อมั่น

จะทำให้คุณได้ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการหรือสินค้าของคุณในระยะยาว ไม่ใช่เพียงลูกค้าที่เข้ามาแล้วจากไปในเวลาอันสั้ ซึ่งกากรสร้างความเชื่อมั่นสำคัญกับการสร้างแบรนด์เป็นอย่างมาก เมื่อลูกค้าของคุณมีความเชื่อมั่นต่อสินค้า การที่คุณสามารถรักษาสัญญาที่เกี่ยวกับข้อเสนอของแบรนด์หรือสินค้า ซึ่งไม่เพียงจะสามารถทำให้คุณรักษาลูกค้าไว้เท่านั้น หากแต่ยังทำให้คุณมีโอกาสในการได้ผู้ร่วมทำธุรกิจกับผู้อื่นมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลทำให้แบรนด์ของคุณมีความหน้าเชื่อถือ ซึ่งอาจมีส่วนช่วยคุณในการประชาสัมพันธ์ได้ดี

 

การสร้างแบรนด์ของคุณให้เติบโตขึ้น ก็จะส่งผลให้ชื่อเสียงของแบรนด์คุณบนโลกออนไลน์มีการเติบโตขึ้นไปด้วยเช่นกัน ลูกค้าบนโลกออนไลน์นั้นเป็นบุคคลสำคัญที่คุณจะต้องรักษาไว้ให้ดี เพราะพวกเขาเหล่านี้จะช่วยกระจายสิ่งต่างๆที่เกี่ยวกับแบรนด์ของคุณให้ผู้อื่นได้รับรู้  เป็นการสร้างแบรนด์เพื่อพัฒนาธุรกิจของคุณให้เติบโตได้อีกยาวไกล

5 เทคนิคการเพิ่มยอดขาย…ที่ใครๆ ก็อยากรู้!!!

shopping-3407232__340

ส่วนหนึ่งของใครอีกหลายคนที่หันมาใช้สมาร์ทโฟนเพราะสามารถสร้างประโยชน์ได้มากมายรวมไปถึงการขายสินค้าบนโลกออนไลน์ ซึ่งเรียกว่ากำลังได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้  ปัจจุบันจะเห็นได้ว่ายอดคนใช้สมาร์ทโฟนเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง  การขายสินค้าบนโลกออนไลน์เป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการควรคำนึงถึงคือการทำคอนเทนท์ให้มีขนาดพอดีกับสมาร์ทโฟน  เพื่อส่งผลต่อการเพิ่มยอดขายซึ่งจะทำให้เพจหรือเว็บไซต์ของคุณมีระเบียบสวยงาม และน่าชม โดยเทคนิคในการขายสินค้าออนไลน์ให้เพิ่มยอดขาย อาจจะไม่ยากอย่างที่คุณคิด

 

1.ต้องมีเทคนิคการถ่ายรูป

การเพิ่มยอดขายไม่เพียงแต่การทำการตลาดด้านใดด้านหนึ่งเท่านั้น ซึ่งอาจจะมีการทำการตลาดออนไลน์หลากหลายหนทาบเพื่อเพิ่มยอดขายให้ติดตลาด  แม้แต่การถ่ายภาพสินค้า บอกเลยว่าหากคุณมีสินค้าดีแค่ไหน แต่หากถ่ายภาพห่วยก็อาจทำให้สินค้าดูหมอง ไม่น่าซื้อ ไม่น่าเชื่อถือ ที่สำคัญต้องใช้เทคนิคการถ่ายภาพบ้าง อย่างการถ่ายรูปสินค้าให้สวยนั้น ไม่ควรถ่ายในบ้าน เนื่องจากแสงไฟบ้านอาจทำให้สีของสินค้าเพี้ยนไปจากเดิม ควรถ่ายนอกบ้านในช่วงบ่าย หรือช่วงที่ท้องฟ้าสว่าง สวยงามเชื่อได้เลยว่ารูปที่ถ่ายออกมาก็จะสวยเช่นกัน

 

2.แชร์บทความ

การทำคอนเทนต์ดีๆ ควรเลือกคีย์เวิดที่ลูกค้าสามารถเข้าถึงได้ และเป็นคำที่คนส่วนใหญ่ใช้หากันอยู่ทั่วไป ซึ่งการทำบทความดีๆ ไม่ว่าจะเกี่ยวกับสินค้าหรือไม่  หรืออาจเป็นบทความแนะนำผลิตภัณฑ์ ประโยชน์การใช้ หรือบทความใกล้เคียงที่เป็นประโยชน์ โดยไม่เน้นหรืออิงการขายมากเกินไป หากมีการแชร์ต่อ ๆ กัน จะสามารถสร้างมูลค่าให้กับแบรนด์ของคุณได้มากขึ้น ซึ่งจะส่งผลทำให้เพิ่มยอดขายเช่นกัน

 

  1. มี Key Message เพื่อการจดจำ

เพื่อให้ลูกค้าสามารถจดจำแบรนด์ของคุณได้ง่าย ควรเลือกคีย์เวิดสั้น ๆ  ที่มีความกระชับ ได้ใจความ เปรียบเสมือนเป็นสโลแกนสั้นๆ เพื่อให้ลูกค้าได้จดจำเวลาที่เห็นสโลแกน ก็จะทำให้นึกถึงสินค้าของคุณด้วย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแนวทางการเพิ่มยอดขายแบบชิลๆ

 

4.ราคาขายสบายกระเป๋า

แม้ต้องการจะเพิ่มยอดขายแค่ไหนก็ตาม  ราคาสินค้าที่ตั้งไว้ไม่ควรให้สูงหรือต่ำมากเกินไป เพราะการแข่งขันปัจจุบันในโลกออนไลน์สูงมาก บางทีสินค้าของคุณมีจุดขายแล้ว แต่ว่าตั้งราคาสินค้าสูงเกินไปก็อาจจะทำให้ผู้บริโภคเกิดความต้องการสินค้าลดลงลองตั้งราคาต้องตอบโจทย์ได้ว่ามีความคุ้มค่า คุ้มราคาจะดีกว่า

 

5.กิจกรรมส่งเสริมการขาย

การเพิ่มยอดขายที่ดี อาจจะต้องมีโปรโมชั่นต่างๆ ที่รวมอยู่กับการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการขาย มีโปรโมชั่น ลด แลก แจก แถม หรือเป็นคูปองส่วนลด ฯลฯ เพื่อเป็นแรงจูงใจในการซื้อของผู้บริโภคทันที หรือครั้งต่อไป

 

นอกเหนือจากข้อมูลดังกล่าวเพื่อเพิ่มยอดขายแล้ว  ควรมีวิธีการจัดส่งสินค้าที่รวดเร็ว โดยไม่ต้องให้ผู้บริโภคต้องรอนาน ทั้งนี้ก็เพื่อสร้างความประทับใจให้กับผู้บริโภคที่ซื้อสินค้าของคุณให้กลายเป็นลูกค้าประจำต่อไป

3 แนวทางการ เพิ่มยอดขายเพื่อมัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด

ecommerce-3563183__340

การเพิ่มยอดขายด้วยการทำ seeding  เป็นการเพิ่มยอดขาย เพื่อเป็นการปั่นกระแสให้กับสินค้าและบริการนั้นๆ  เรียกว่าเหมาะกับการโปรโมทสินค้าใหม่ๆ ที่ยังไม่ค่อยมีคนรู้จักมาก ซึ่งการทำ seeding จะสามารถสร้างกระแสให้กับสินค้าได้ดี และดึงดูดความสนใจจากลูกค้าได้ไม่น้อย  นอกจากนี้มีการนำรีวิวโดยการเชียร์ขายสินค้าแบบเนียนๆ หรือรีวิวของพ่อค้าแม่ค้าที่ส่วนใหญ่จะพูดถึงสรรพคุณของสินค้าเป็นหลัก ซึ่งจะเน้นจุดเด่นให้สินค้าดูน่าเชื่อถือ  และยังเป็นการพูดถึงผลลัพธ์ที่ได้จากการใช้สินค้า หรือความประทับใจจากการใช้สินค้าและบริการนั้นๆ  แต่กลยุทธ์เพื่อเพิ่มยอดขายอย่างยั่งยืน ซึ่งแน่นอนว่าในแต่ละข้อนั้นมันไม่ง่าย เพราะอาจต้องใช้การลงทุนทั้งด้านทุนทรัพย์และเวลาที่มากขึ้น แต่คุณสามารถนำกลยุทธ์เหล่านี้มาปรับใช้กับธุรกิจอย่างรอบคอบ  ก็จะส่งผลให้เกิดการเพิ่มยอดขายขึ้นอย่างต่อเนื่อง  ซึ่งแต่ละหัวข้อจะมีอะไรบ้างนั้นลองมาดูกัน

 

1.เพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาด

การกระตุ้นให้ลูกค้าในตลาดเดิมหันมาใช้สินค้าหรือบริการของคุณเพิ่มขึ้น จากที่เคยซื้อ 1 อาจเพิ่มเป็น 2-3 ชิ้นแทน   ในกรณีที่ไม่ยอมใช้ส่วนแบ่งทางการตลาด   ส่วนการมองหาตลาดใหม่หรือขยายตลาดอาจดูเป็นการเสี่ยงเกินไป ทำไมไม่ลองเพิ่มยอดขายในตลาดเก่าดูก่อนล่ะ เพราะการทำธุรกิจในตลาดเดิมที่มีอยู่แล้วถือเป็นกระบวนการที่คุณมีทุกอย่างในมืออยู่แล้ว  ที่รู้ว่าต้องทำอะไร หรือทำอย่างไร จึงจะเพิ่มยอดขายได้  ซึ่งคุณจะต้องรู้พฤติกรรมของกลุ่มนี้ว่าลักษณะเป็นอย่างไร ซึ่งจะส่งผลต่อการเพิ่มยอดขายหรือส่วนแบ่งการตลาดจากตลาดเดิม ไม่ได้เป็นการเริ่มต้นทำอะไรใหม่ใดๆ  แต่เป็นเพียงการพัฒนาสิ่งต่างๆ ที่มีอยู่ในมือให้เหนือชั้นกว่าคู่แข่ง  และเพื่อเป็นการอตอบโจทย์ลูกค้าให้ได้มากขึ้นไปอีก ซึ่งจะทำให้ได้ส่วนแบ่งการตลาดของเจ้าอื่นๆ มานั่นเอง

 

2.ขยายสายการผลิตสินค้าใหม่

กลยุทธ์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในการเพิ่มยอดขายคือ การแตกสายการผลิตออกมาสร้างสินค้าใหม่ให้สอดคล้องกับสินค้าเดิม จากที่ลูกค้าเคยหรือใช้บริการอยู่เป็นประจำ นั่นหมายความว่าอย่างน้อยเราจะได้ฐานลูกค้าเดิมที่ชื่นชอบในตัวสินค้าและบริการของคุณอยู่แล้วด้วย อีกทั้งยังมีโอกาสที่จะได้ลูกค้าใหม่ๆ ที่เข้ามาทดลองใช้สินค้าและบริการใหม่ของคุณเช่นกัน  .

 

3.เพิ่มช่องทางการขายเพื่อเพิ่มยอดขาย

การขายสินค้าบนโลกออนไลน์เป็นอีกหนทางที่ไม่ต้องลงทุนอะไรมากนัก เพราะเจ้าของธุรกิจไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้าน เพียงแค่ขายสินค้าได้ทั้งบนเว็บไซต์ของตัวเอง และเว็บไซต์ที่เป็นตลาดกลางในการขายสินค้า รวมทั้งเครื่องมือบนโลกออนไลน์  ต่างๆ ก็ล้วนเป็นช่องทางที่น่าสนใจทั้งนั้น  หากคุณมั่นใจในศักยภาพในการขายของธุรกิจจริง ๆ และมีต้นทุนมากก็สามารถไปเปิดสาขาเพิ่มได้ตามแหล่งต่างๆ  และเลือกทำเลดีๆ  ก็จะเป็นการเพิ่มช่องทางการขายซึ่งจะช่วยเพิ่มยอดขายได้เช่นกัน

3 เคล็ดลับวิธีเพิ่มยอดขายแบบชิลๆ ให้ปัง !!

laptop-1160447__340

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าศิลปะการพูดจะเป็นการเพิ่มยอดขายได้ หากคุณมีการพูดคุยกับลูกค้าบ่อยๆ  ซึ่งนอกจากจะช่วยทำให้หน้าเฟซบุ๊คของคุณไม่หยุดนิ่งแล้ว ยังส่งผลให้การเข้าถึงเพิ่มขึ้นอีกด้วย แต่ทั้งนี้ก็ต้องอาศัยองค์ประกอบอื่น ๆ  ในการเพิ่มยอดขาย ที่สำคัญคือต้องหลีกเลี่ยงการพูดอยู่คนเดียวโดยไม่ฟังคนอื่น ๆ ซึ่งศิลปะในการพูดคุยกับผู้คนบนเฟสบุ๊ค คุณจะต้องไม่เน้นการขายของมากเกินไป แต่อาจจะใช้วิธีพูดถึงสิ่งที่คนกำลังสนใจในตอนนั้น รวมทั้งจะต้องสื่อสารให้ถูกจังหวะและโอกาส  หรือจะตั้งคำถามกับลูกค้าว่า ใช้สินค้าไปแล้วเป็นอย่างไรบ้าง?

 

การเพิ่มยอดขายผ่านทางเฟสบุ๊คกลายเป็นที่นิยมกันมากขึ้น ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะการเข้าถึงที่ง่าย ใคร ๆ ก็เล่น และสามารถแอดเพื่อนได้มากมาย อีกทั้งอาจจะไม่ต้องเสียเงินโปรโมทด้วยซ้ำ หลาย ๆ คนที่ทำธุรกิจต่างก็กระโดดเข้ามาทำการตลาดบน Facebook กันมากขึ้น บางคนตั้งเป้าว่าต้องพยายามสร้างคนเข้ามาร่วมเป็น “แฟนเพจมากที่สุด  แล้วเจ้าขอสินค้าจะรู้ไหมว่าหากแฟนคุณเยอะขึ้นแล้ว คุณจะสามารถนำสมาชิกเหล่านั้นมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดหรือช่วยเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจคุณได้อย่างไร ??

 

1.สื่อสารไปหาสมาชิก

เป็นอีกหนึ่งช่องทางการเพิ่มยอดขายเพราะสมาชิกในเฟสบุ๊คอาจจะไม่ได้มีโอกาสกลับมาหน้าของคุณทุกๆวัน  การเรียกและสื่อสารกับลูกค้าคุณก็สามารถทำได้ง่ายๆ โดยในแฟนเพจนั้นจะมีบริการส่งข้อความหา สมาชิกทั้งหมดของคุณได้ ซึ่งคุณสามารถใส่เนื้อหาและข้อความที่คุณต้องการสื่อสารไปยังกลุ่มลูกค้าของคุณได้ทันที   ส่วนข้อความที่ส่งเข้าไปในส่วนของข้อความ (Message) สมาชิกแต่ละคน นั้น จะคล้ายๆ กับการส่ง Email Marketing ออกไปหาสมาชิก แต่ข้อดีของระบบนี้คือ สามารถส่งถึงกลุ่มเป้าหมายได้รวดเร็วและถึงแน่นอน การใช้งาน กดที่ Edit Page แล้วไปที่ Marketing แล้วเลือก Send an Update

 

2.กระตุ้นให้สมาชิกพูดถึงสินค้าในทางที่ดี

การกระตุ้นให้คนในเฟสบุ๊คพูดถึงสินค้าและบริการของคุณในทางที่ดี เพราะจะมีส่วนช่วยกระตุ้นให้คนอื่นๆ ที่ยังไม่เคยใช้สินค้าของคุณอยากใช้ตามด้วย อีกหนึ่งช่องทางการเพิ่มยอดขาย ซึ่งส่วนใหญ่คนจะเชื่อในสิ่งที่คนอื่นพูดถึงสินค้าและบริการมากกว่า การเห็นตามโฆษณาทั่วไป  คุณสามารถกระตุ้นให้คนในหน้าเฟซฃสบุ๊ค พูดถึงสินค้าหรือบริการของคุณในทางที่ดีเพื่อเป็นการเพิ่มยอดขาย ซึ่งข้อมูลเหล่านั้นก็จะไปแสดงในหน้าของพวกเขาด้วยเช่นกัน  ซึ่งจะทำให้เพื่อน ๆ ของพวกเขาก็จะเห็นข้อความนี้ด้วย  เป็นโอกาสที่เพื่อน ๆ ที่เห็นที่คลิกเข้ามาจะมีโอกาสเชื่อและซื้อสินค้ามากว่าการเห็นโฆษณาทั่ว ๆ ไป

 

3.สร้างกิจกรรมเล่นเกมส์ผ่าน Facebook  

การเพิ่มยอดขายด้วยการจัดกิจกรรม หรือเล่นเกมส์กับกลุ่มลูกค้าของคุณบนเฟสบุ๊ค จะทำให้พวกเขามีโอกาสมาร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ส่วนเกมส์ที่เล่นถ้าจะให้ง่ายที่สุด อาจใช้การตั้งคำถามในหน้าเฟสบุ๊คแล้วให้รางวัลตามที่คุณได้กำหนดไว้   เกมส์ง่าย ๆ  จะช่วยดึงดูดให้คนอยากเข้ามาร่วมเล่นบนเฟสบุ๊คของคุณอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ส่วนของรางวัลที่ได้อาจจะเป็นของหรือคูปองใช้บริการหรือสินค้าของธุรกิจคุณ  ซึ่งนอกจากจะดึงลูกค้าเก่าและใหม่ให้อยู่หมัดแล้วยังเป็นการเพิ่มยอดขายได้อีกด้วย

หลักกลยุทธ์โปรโมทสินค้า ผ่าน Facebook ให้ได้ผลจริง

social-media-marketing-2353347__340

หากเอ่ยถึงการทำการตลาดออนไลน์    ส่วนใหญ่พ่อค้าแม่ค้าจะหันมาใช้บริการโปรโมทสินค้า เพราะเป้าหมายคือ จะช่วยให้การทำการตลาด เห็นผลอย่างรวดเร็ว เพราะความท้าทายของเจ้าของธุรกิจร้านค้าบนโลกออนไลน์ เรียกว่ามีการแข่งขันสูง เพราะจะต้องคอยคิดว่าทำอย่างไรให้มีคนเข้ามาในหน้าร้านค้าหรือหน้าเพจให้มากที่สุดซึ่งการโปรโมทสินค้ายังเป็นการเพิ่มโอกาสในการขายสินค้า  และหากมีคนเข้ามาดูมากโอกาสในการขายสิ้นค้าก็มากขึ้นตามไปด้วย เพราะเหตุนี้จึงทำให้เจ้าของร้านค้าหาวิธีในการโปรโมทสินค้า  ซึ่งหนึ่งในช่องทางการโปรโมทยอดนิยมคือการนำเสนอผ่านทางเฟสบุ๊ค….มาดูกันว่าวิธีนี้จะช่วยเพิ่มยอดขายในเพจได้มากแค่ไหน

 

โพสต์ Content เป็นประจำทุกวัน

เป็นวิธีโปรโมทสินค้าที่ง่ายที่สุด ที่สามารถทำในเพจ เฟสบุ๊คได้แบบไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ   เพราะเป็นการโพสต์รูปสินค้าลงบนไทมไลน์อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งจะช่วยให้เกิดการ กดไลค์ กดแชร์ หรือComment  ลองโพสต์เนื้อหาหลายๆแบบเพื่อเป็นการหาแนวทางและวิธีการโพสต์ที่ได้ผลดีที่สุด  โดยเฉพาะบทความ ที่ควรจะโพสต์อย่างน้อยวันละ 1 – 2 บทความเพื่อเป็นการโปรโมทสินค้า

 

ใช้รูปภาพในการโปรโมทสินค้า

ควรจะใช้รูปภาพที่เป็นสินค้าเพื่อโปรโมทสินค้า ซึ่งควรใช้รูปภาพที่มองเห็นสินค้าชัดเจนเลือกรูปที่ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุดหรืออาจใส่รายละเอียดสินค้าเพิ่มไปบนรูปภาพอย่าง ขนาดของสินค้า หรือราคา  และชื่อร้านค้าของเรา เพราะนอกจากจะได้โปรโมทสินค้าแล้ว ยังได้โฆษณาชื่อร้านของคุณอีกด้วย

 

ใช้ Website รีวิวสินค้าเพื่อโปรโมทสินค้า

นอกจากจะโปรโมทสินค้าในหน้าเพจของตัวเองแล้วควรหาเว็บไซต์ที่เป็นเว็บรับรีวิวในรูปแบบบริการฟรี เพื่อเขียนรีวิวสินค้าของตัวเอง ซึ่งถือเป็นการเพิ่มช่องทางในการโปรโมทสินค้าและทำให้ร้านมีความน่าเชื่อถือเพิ่มขึ้น แน่นอนว่าหากทำวิธีนี้บ่อยๆ จะทำให้เกิดการบอกต่อและแชร์ข้อความของคุณเพิ่มขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสให้คนรู้จักเพจของคุณและสินค้าของคุณมากขึ้นตามไปด้วย

 

ใช้ Info graphic เจ๋ง ๆแทนข้อความในการโปรโมทสินค้า

สินค้าที่มีความซับซ้อนในการใช้งาน หากเขียนคำอธิบายอาจมีความยาวไม่น่าอ่าน  ซึ่งจะส่งผลทำให้มีการเลื่อนผ่านข้อความของคุณไปได้ ลองหันมาใช้วิธี Info Graphic ในการอธิบายดูสิ  ใช้ภาพสินค้าที่ถ่ายรูปสวยๆ พร้อมกับคำบรรยายสั้นๆ  จะทำให้เข้าใจง่ายแลช่วยะโปรโมทสินค้าได้แบบมีสีสันและจะดีกว่าแบบข้อความเพียงอย่างเดียว

 

วิธีในการโปรโมทสินค้ายังมีให้เลือกอยู่หลายวิธี ขึ้นอยู่กับการนำไปประยุกต์ใช้ให้เข้ากับแบรนด์ การโปรโมทสินค้าควรมีการโปรโมทหลาย ๆ ช่องทางเพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าได้รู้จักสินค้าของคุณมากขึ้น